เผยความจริง! ร้องขอทวงความยุติธรรมให้แม่หนูด้วย

อ่าน 11,826

จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้แชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณพิ๊ออย พาเคียว ที่ได้โพสต์ภาพผู้หญิงรายหนึ่งขณะถูกคุมขังซึ่งเป็นแม่ของเธอเอง พร้อมระบุข้อความขอความช่วยเหลือทวงความยุติธรรมให้กับครอบครัวของเธอด้วย

เนื่องจากว่าแม่ของเธอถูกจับกุมขณะกำลังขายน้ำมะพร้าว ด้วยข้อหาฉ้อโกงเงินจำนวนกว่า 600,000 บาท โดยอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งเเละให้โอนเงินเข้ามาซื้อถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือคนโดนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทั้งที่แม่ของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากว่าบัญชีที่แม่เธอเปิดไว้มีคนหลอกให้เปิดบัญชีพร้อมเอทีเอ็ม เพื่อแลกกับเงินกู้จำนวน 5,000 บาท พร้อมยึดไปตั้งแต่ปี 2554

ทางทีมข่าว Sanook! News จึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์เจ้าของเรื่องคือคุณคุณพิ๊ออย พาเคียว ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า

เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาคุณพ่อและคุณแม่ได้เดินทางไปดูประเพณีบุญบั้งไฟที่จังหวัดหนองคายโดยมีเงินติดตัวอยู่ประมาณ 3,000 บาท จากนั้นได้มีกลุ่มชายหญิงชวนเล่นการพนันบั้งไฟ ทำให้เสียเงินไปเกือบทั้งหมดเหลือติดกระเป๋าเพียง 500 บาท ในระหว่างนั้นจู่ๆ ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาพร้อมแจ้งข่าวร้ายเมื่อลูกชายคนโตไส้ติ่งแตกนอนอยู่โรงพยาบาลที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งหลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ทางพ่อและแม่ก็เกิดอาการเครียดเป็นอย่างมากเพราะไม่มีเงินจะกลับบ้านไปหาลูก แต่แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่าจุ๋มได้เข้ามาเสนอให้ยืมเงินจำนวน 5,000 บาท แลกกับบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม

ซึ่งตอนแรกพ่อกับแม่ก็ไม่กล้ารับปากเพราะคาดไม่ถึงว่าคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันทำไมถึงกล้าให้ยืมเงิน และที่สำคัญหญิงคนนี้มีท่าทีแปลกๆ คือใส่หมวกปิดบังใบหน้าพร้อมก้มหน้าเวลาคุยกัน แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกและหญิงสาวได้บอกถึงสาเหตุที่ต้องใช้บัญชีและบัตรเอทีเอ็มว่าจะนำไปเก็บไว้เพื่อใช้เป็นบัญชีโอนตังค์มาใช้คืน พ่อกับแม่จึงตกลงกู้เงินโดยไปเปิดบัญชีและเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย จากนั้นหญิงแปลกหน้าได้จ้างคนขับรถสามล้อให้เอาเงินมาให้ พร้อมกับเอาบัตรเอทีเอ็มไปแล้วพ่อกับแม่ก็กลับบ้าน จากนั้นหญิงแปลกหน้าก็ได้ติดต่อกลับมาเรื่องเงินที่ยืม 2-3 ครั้ง แล้วก็หายไปเลย

ต่อมาปีนี้แม่ก็โดนจับข้อหาฉ้อโกงเงิน 600,000 บาท เนื่องจากชื่อบัญชีเป็นของแม่ ซึ่งทางครอบครัวไม่มีแม้แต่เงินประกันตัวเนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก และไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือใครติดต่อหน่วยงานไหน จึงนำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ไว้หน้าเฟซบุ๊กของตนเอง เผื่อจะมีใครที่พอจะสามารถช่วยเหลือครอบครัวตัวเองได้บ้าง

ทางด้านพ่อของผู้โพสต์ได้เปิดใจกับทีมข่าว Sanook! News โดยได้เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนเองเชื่อว่าภรรยาเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะแต่งงานอยู่กินกับภรรยาคนนี้มามากว่า 20 ปี ขอเอาตัวเองเป็นตัวประกันถ้าหากว่าโกหกและทำผิดจริงๆ จะขอร่วมชะตากรรมกับภรรยา ผมกล้ายืนยันขนาดนี้เลยครับ

ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า และถ้าหากว่าไปฉ้อโกงเงินมาจริงๆ คงต้องมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน ขณะตอนนี้ลูกกำลังเปิดเทอมยังไม่มีแม้แต่ค่าเทอมของลูกเลย ต้องดิ้นรนทำมาหากินปากกัดตีนถีบตลอด จึงไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหน หรือไปพึ่งพาใครที่จะสามารถช่วยเหลือภรรยาของตัวเองมาต่อสู้คดีได้

ด้าน ทนายวรวัฒน์ บุญฤทธิ์ ได้ให้คำแนะนำว่าคดีนี้เป็นคดีฉ้อโกง หากผู้ต้องหาสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบัญชีที่ตัวเองไปเปิดทิ้งไว้ เพื่อให้มิจฉาชีพนำไปหลอกลวงประชาชนทั่วไปก็จะพ้นผิด แต่หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ก็อาจจะโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดได้ หรือ อาจจะกลายเป็นผู้กระทำผิดได้

ซึ่งต้องดูด้วยว่าขณะที่มีเงินเข้ามาและมีการถอนเงินออกไป ผู้ต้องหาได้ใช้หรือเกี่ยวข้องกับบัญชีนั้นหรือไม่

ด้านสาเหตุที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับก็เพราะว่าชื่อบัญชีเป็นของผู้ต้องหาทางตำรวจก็ต้องออกหมายเรียกมารายตัว หากไม่มาก็ต้องขออนุญาตศาลออกหมายจับและตามจับต่อไป ซึ่งเป็นกระบวนการการทำงานของตำรวจตามหลักฐานและสำนวนที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องผิดหรือไม่ผิด ผู้ต้องหาต้องไปพิสูจน์กันในศาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ สิ่งที่ต้องทำคือขอยื่นประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นศาลโดยใช้เงินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ถ้าไม่มีทรัพย์สินใดๆ ก็สามารถยื่นเรื่องต่อกรมคุ้มครองสิทธิ์ หรือ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดก็ได้ หากไม่มีทนายความศาลก็จะจัดหาทนายให้ตามกระบวนการเพื่อต่อสู้คดี

ด้านความคืบหน้าของคดีทางพนักงานสอบสวนได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Sanook! News ว่าเรื่องคดีที่เกิดขึ้นทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าได้ทำสำนวนตามจริงตามหลักฐานที่มี และขอยืนยันว่าไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใดๆ ทั้งสิ้นและที่ต้องออกหมายจับเนื่องจากว่าผู้ต้องหาไม่ได้มารายงานตัวตามหมายเรียก

ซึ่งชื่อบัญชีเป็นของผู้ต้องหาจึงจำเป็นต้องเรียกผู้ต้องมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งต้มตุ๋นในข้อหาฉ้อโกงหรือไม่

โดยคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปยังอัยการและฟ้องศาลเรียบเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ต้องหาจึงต้องประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นศาลเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ต่อไป หากผู้ต้องหาบริสุทธิ์และสามารถยืนยันในชั้นศาลได้ ศาลก็จะยกฟ้องซึ่งเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ขอขอบคุณข้อมูล : facebook พิ๊ออย พาเคียว



บทความแนะนำ


Monsterเดือนเกิดทีมวิจัยทำนายโรคภาพยนตร์ขอแต่งงานสนามบินดอนเมืองข่าวบันเทิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก