ใครผิด!! ฟัง 2 มุม ดราม่าตำรวจสั่งปิดร้านอาหาร เหตุบริการไม่ประทับใจ

ประเด็นลุกลามหลังเพจเฟซบุ๊กดังแชร์เรื่องเจ้าของร้านอาหาร ประกาศเซ้งร้านเพราะถูกตำรวจสั่งปิดร้าน กรณีบริการไม่ประทับใจ ด้านตำรวจก็ออกมาชี้แจง แค่สั่งให้ปรับปรุงเรื่องเสียงดัง เพราะชาวบ้านโวยมาเยอะ

จากกรณีที่เฟซบุ๊กชื่อดัง "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้โพสต์ภาพเจ้าของร้านอาหาร "ฮังเลย์" ปิดป้ายประกาศเซ้งร้านอาหารเพราะถูกตำรวจยศใหญ่สั่งปิดร้าน และเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ตามที่ น.ส.เกศิญาภรณ์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอาหารฮังเลย์ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ฉัตรพัฒน์ จารุเรืองพงศ์ ผู้บังคับการอำนวยการสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 2 เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ สั่งปิดร้านอาหารด้วยเหตุไม่สมควร ส่งผลให้พนักงานภายในร้านตกงานจำนวนมาก โดยมีผู้เข้ามาคอมเม้นเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านอาหารฮังเลย์ พบว่าเป็นร้านเปิดโล่งไว้เปิดแสดงดนตรีสด ด้านหน้าร้านปิดป้ายมีคำว่า เซ้งกิจการ ร้านฮังเลย์ โดนตำรวจยศใหญ่สั่งปิด โดย น.ส.เกศิญาภรณ์ ได้กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อกลางคืนวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าให้ปิดร้าน 7 วัน เพราะนักร้องพูดจาไม่ถูกหู ประกอบกับแคชเชียร์ไม่ยอมลดค่าอาหาร

ตนจึงให้แฟนคือ ด.ต.เปี่ยมศักดิ์ วินทะไชย ผู้บังคับหมู่ปราบปรามสถานีตำรวจภูธรตาพระยา จังหวัดสระแก้ว โทรไปหา พ.ต.อ.ประเสริฐ โตศักดิ์สิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ โดยตนสั่งให้ ด.ต.เปี่ยมศักดิ์ อัดคลิปเสียงไว้ด้วย และขอต่อรองว่าปิด 3 วันได้ไหม แต่ทางผู้กำกับการไม่ยอม

ตนเลยคิดว่าถ้าขืนเปิดร้านต่อไปคงไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะอาจจะโดนปิดหรือยัดข้อหาอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ จึงปิดป้ายเซ้งร้านเผื่อใครมาถามจะได้รู้ว่าเราประชาชนคนธรรมดาโดนกลั่นแกล้ง ตนเปิดร้านมา 9 ปี รู้กฎดีไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย และยืนยันว่าไม่ใครร้องเรียนเรื่องเสียงดัง

ขณะที่ พ.ต.อ.ประเสริฐ โตศักดิ์สิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ ได้เปิดเผยว่า ร้านอาหารฮังเลย์ เป็นร้านเปิด ดนตรีเล่นสดเสียงดัง มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีดนตรีเสียงดังมาก เคยเตือนหลานครั้งแล้วก็ไม่เคยแก้ไข ตนไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนที่เขาปิดร้านนั้น ตำรวจไม่ได้สั่งให้เขาปิดร้าน เพียงแต่เอ่ยด้วยวาจาให้ปิดร้านปรับปรุงเรื่องดนตรีเสียงดัง

นอกจากนี้ ตนยังสั่งให้ลูกน้องไปบอก แต่กลับใช้วาจาที่ไม่ดีใส่ แถมเร่งเสียงให้ดังกว่าเดิมเหมือนประชดประชัน หากไม่เชื่อก็สอบถามชาวบ้านข้างเคียงดูได้ว่าเสียงดังจริงหรือไม่ มีหลักฐานการร้องเรียนที่เทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ และไม่ใช่ร้านเดียวที่ถูกร้องมา ตนก็สั่งไปแบบเดียวกันคือให้ปิดปรับปรุง และก็มีร้านที่ปรับปรุงแล้วเปิดต่อตามปกติ และก็มีร้านที่ปิดตัวไปเอง เพราะบางร้านก็มียาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า ตนอยากทำให้บ้านเมืองดูดี แต่ก็เสียความรู้สึกบ้าง ไม่คิดจะไปแจ้งความใครเพราะตนยังอดทนได้ ส่วนที่บอกว่าตนไปนั่งที่ร้านนั้นเป็นความจริง แต่เคยไปนั่งครั้งเดียวตั้งแต่ย้ายมาใหม่ๆ เดือนแรก เพื่อต้องการให้รู้ว่าร้านไหนเป็นอย่างไร ไม่ใช่ไปนั่งวันที่ 24 เมษายน ตามที่สื่อไปลงข่าว

ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่ไม่เปิดเผยชื่อ ทราบว่าร้านนี้เปิดมานานแล้วเสียงดนตรีดังมากจริงๆ เพราะเป็นร้านเปิดและมีเจ้าของร้านเคยเป็นตำรวจประจำอยู่สถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ และปัจจุบันย้ายไปแล้ว แต่ก็ยังแปลกใจว่าเห็นตำรวจเจ้าของร้านที่มีตำแหน่งอยู่สถานีตำรวจภูธรตาพระยา แต่มาอยู่ร้านได้ทุกวัน จึงคิดว่าย้ายกลับมาแล้ว