อั้ม พัชราภา ยินดีช่วยเหลือ น้องไทเกอร์ ขาดทุนการศึกษา หลังพลังโซเชียลฯ แห่แชร์ข่าว

อ่าน 12,642

นักแสดงสาวชื่อดัง "อั้ม พัชราภา" ออกมาเผยถึงความรู้สึกหลังทราบข่าวจากโลกโซเชียลฯ กรณีอดีตดาราเด็กสู้ชีวิตที่เธอเคยมีโอกาสได้ร่วมงานด้วย อย่าง "น้องไทเกอร์" ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และต้องเก็บเงินสำหรับเป็นค่าเทอมในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย โดยสาวอั้มได้ยอมรับว่า ทราบข่าวนี้จากการที่แฟนคลับแท็กมาให้ผ่านอินสตาแกรม ซึ่งเธอก็พร้อมที่จะให้กำลังใจและยินดีให้ความช่วยเหลือน้องไทเกอร์เสมอ โดยเชื่อว่าคนไทยหลายคนก็คงยินดีให้ความช่วยเหลือเช่นกัน

ส่วนทางด้านกระแสข่าวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฟีดแบคตอนจบของละครปังแห่งปี เพลิงพระนาง รวมความสัมพันธ์กับไฮโซหนุ่มหล่อ "ฟลุค วรวุฒิ" หลังถูกปาปารัซซี่แชะภาพช็อตเด็ดดินเนอร์ร้านหมูกระทะจะมีความคืบหน้ายังไงบ้างนั้น สาวอั้มเธอก็ได้อัพเดทให้เราฟังว่า

เรื่องน้องไทเกอร์ที่เคยร่วมงานกับเรา เขาขอความช่วยเหลือเรารู้สึกยังไงบ้าง ?"เพิ่งทราบข่าวจากที่คนแท็กมานะคะ น้องโตขึ้นเยอะเลยก็ดีใจที่น้องประสบความสำเร็จ แต่ก็คงมีเรื่องที่น้องไม่สบายใจและลำบาก ก็เอาใจช่วยนะคะ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเนอะ บางทีเวลาเราทำอะไรก็ไม่ได้อยากให้ใครมารับรู้เท่าไหร่ เอาเป็นว่าให้คิดถึงเราเป็นคนสุดท้ายแล้วกัน สุดท้ายแล้วก็คิดถึงเราได้"

ก็ยินดีช่วยเหลือถ้าเกิดน้องมีปัญหาหนักจริงๆ ใช่ไหม ?"ใครๆ ก็ยินดีช่วยเหลือ"

เขามีช่องทางที่จะติดต่อเราโดยตรงไหม?"มันก็ไม่ยากป่ะ แค่แท็กมาก็ต้องเห็น วันนี้ไม่เห็น อีกวันก็ต้องเห็น ไม่เป็นไรตอนนี้คงมีคนช่วยน้องเยอะอยู่แล้วเนอะ เราเห็นเราก็สงสารอยู่แล้ว แต่ยังไงเราก็ต้องแบบว่าคนสุดท้ายก็ได้ ตอนนี้ให้คนอื่นช่วยไปก่อน"

อั้มเคยช่วยน้องมาบ้างแล้วเหมือนกันใช่ไหม?"ก็นานมากแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ให้คนช่วยไปก่อนเลย"

ถามถึงภาพที่ไปกินข้าวกับไฮโซฟลุค ?"คือวันนั้นจริงๆ ก็โทรมมากเลย ก็ไปช่วยน้องหมาเสร็จแล้ว ก็แวะกินที่นั่นหน้าปากซอยเลย พี่เขามาหาพอดี"

รู้ใช่ไหมว่ามีคนแอบถ่าย ?"เจอจำหน้าได้เลยว่าหนังสือเล่มไหน จำได้เขาชอบเป็นปาปารัสซี่ตลอด กอสสิปสตาร์รู้เลย แต่ไม่คิดว่าจะถ่ายได้เร็ว เราก็พยายามหันหลังให้เขาแล้ว แต่เราจำหน้าได้เลยมีรูปด้วย เพราะให้คนแอบถ่ายไว้เหมือนกัน เจอเขาบ่อยๆ หลายปีมากแล้ว 8 ปีแล้วมั้งคนเดียว"

"ตัวพี่เขามีซีเรียสไหมที่มีคนแอบถ่าย ?"แต่อั้มบอกเขาแล้วว่าคนนี้เหมือนปาปารัสซี่นะให้ระวัง เราก็บอกพี่ยุ้ยๆ ยืนไว้ ปิ้งหมูก็ยืนไว้ หน้าเราไม่ได้แต่งยืนบังๆ (หัวเราะ) หัวเราก็ยังติดกิ๊บอยู่เลยเพราะว่ามันร้อน"

แต่ไม่โกรธปาปารัสซี่ใช่ไหม ?"อั้มชินนะ ไม่ได้โกรธ แต่บางทีก็เข้าใจป่ะ คนจะอ้าปากกินข้าว เราก็อยากกินข้าวสบายๆ แล้ววันนั้นคืออารมณ์เสียมาก เพราะมันร้อนมาก และเราก็หิวข้าวมาก เรายังไม่ได้กินข้าว พอไปถึงร้านก็อยากจะกินข้าวให้มันสบายใจ แล้วก็เลือกรูปที่อั้มไม่สวยเลย"

ตกลงความสัมพันธ์เราเป็นยังไง ?"ก็ยังคุยๆ กันอยู่ค่ะ พี่เขาก็น่ารักดี"

ยังไม่ถึงขั้นคบหาดูใจเป็นแฟนใช่ไหม ?"ยังค่ะ ยังไม่แน่ใจ บางทีคนที่คิดว่าใช่มันก็ไม่ใช่เนอะ ต้องดูเรื่อยๆ ค่ะ ต้องดูให้ดี"

"เรียกว่าความรักตอนนี้กำลังไปได้สวย ?เอาเป็นว่าพี่เขาก็ดีค่ะ เรียกว่าคุยๆ กันดีกว่าค่ะ ก็ลุ้นๆ ไปดีกว่าเนอะ"

เรื่องเพลิงพระนางจบไปอย่างสวยงาม ตอนดูฉากจบเป็นยังไงบ้าง ?"เราดูเองเรายังเสียใจมากเลย เสียใจทุกตัวละคร เพราะเราเองก็เคยเห็นภาพเขาสวยงาม อย่างตองนวลอั้มก็เสียใจนะ ฉากนั่งเสลี่ยงเขาก็ดูบ้าๆ คือเห็นแล้วสงสารเขาเพราะเมื่อก่อนเขาเคยรุ่งเรือง เหมือนกับตัวเราเองที่เมื่อก่อนก็เคยรุ่งเรืองแต่พอมาวันนี้ก็เป็นแค่ผู้หญิงแก่ๆ คนหนึ่ง ที่ยังนึกถึงแต่ความหลังเก่าๆ"

หลังจากนี้จะมีงานละครให้เห็นกันอีกเมื่อไหร่ ?"ก็พยายามจะให้มีเร็วๆ นะคะ แต่ขอพักก่อนแปปเดียว แปปเดียวจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) คือพยายามดูบทให้เข้ากับตัวเองก่อน เพราะที่ผ่านมาคนก็คาดหวังกับเพลิงพระนางไปแล้ว ดังนั้นเรื่องต่อไปเราก็เลยต้องคิดหนัก แต่ก็ึคงจะเป็นคนละแนวกันเลยค่ะ"

จริงๆ จะมีโอกาสเห็นอีกไหมกับการที่้เราจะมารับบทเป็นแม่หรือเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้อีก ?"จริงๆ อั้มคือไม่รับบทแม่นะ แต่บังเอิญว่าเรื่องนี้อั้มต้องเล่นตั้งแต่สาวจนมาโตจนมาเป็นคุณยาย อั้มเลยรู้สึกว่ามันน่าลองมาก เพราะตอนแรกอั้มคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถามว่ามันเป็นการฉีกตัวเองไหม เอ่อ...อันนี้ฉีกหนักมากเลยค่ะ เพราะมันไกลตัวมากจริงๆ"

ถามถึงเรื่องที่เราเข้าไปช่วยหมาในป่าเป็นยังไงบ้าง ?"อ๋อ...คือจริงๆ ตรงนี้อั้มไปมา 2 วันแล้วนะคะ เพราะวันแรกที่อั้มรู้จักเจ้าของ อั้มก็ทราบมาว่าเขาหากันมา 5 วันแล้ว แต่หาไม่้เจอ ซึ่งถ้าน้องหมาหายไปนานๆ แบบนี้อั้มก็กลัวไงคะว่ามันจะเป็นอันตรายกับเขา อั้มก็เลยคิดว่าถ้าอั้มมีเวลาว่างอั้มลงไปช่วยหาด้วยดีกว่า"

"ตอนนั้นก็เลยคุยกับพี่ยุ้ยและก็บอกเขาว่าเราต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน คือไปหาซื้อรองเท้าบู๊ท เตรียมของนู่นนี่นั่น ซึ่งวันแรกที่อั้มไปถึงอั้มรออยู่ 5 ชั่วโมงครึ่งนะคะจนได้เจอเขา เพราะเขาเดินออกมาทานข้าวหลังจากที่เขาไม่ได้ทานมาหลายวัน เนื่องจากโดนหมาเจ้าถิ่นไล่ให้เขาต้องไปหลบอยู่ในป่า"

"คือวันนั้นเราเห็นเขาแล้วและก็ยืนรอเขาเพราะเราไม่สามารถเอาตัวเขาออกมาได้ เพราะช่วงใกล้ค่ำมันก็อาจจะมีตัวเงินตัวทองหรือมีงูออกมา คือเราก็ยืนรอแล้วรออีก รออยู่ 5 ชั่วโมงกว่า แต่ตอนนั้นก็ต้องพยายามกินน้ำน้อยๆ ด้วยนะคะเพราะว่าเราเข้าห้องน้ำไม่ได้ จนสุดท้ายพอมันเต็มที่สุดๆ แล้วเราก็ได้พี่ๆ อาสากู้ภัยเข้ามาช่วย แต่ก็ด้วยความกลัวของน้องหมาเขาก็เลยหนีเพราะเขากลัว สรุปแล้วก็คือหาไม่เจอ"

"พอมาอีกวันเราก็ออกตามหากันใหม่ แต่ครั้งนี้ก็คิดนะว่าถ้าไม่เจอไม่ได้แล้วแหละ เราก็เลยตัดสินใจจุดธูปเพื่อขอให้เจอเขา และสุดท้ายก็เจอจริงๆ ดีใจมากค่ะ"

ตอนนั้นไม่ห่วงสวยอะไรเลยใช่ไหม ?"วันนั้นก็ไม่ได้ทาครีมกันแดดไปค่ะ หน้าไหม้ไปเลย ก็โดนหญ้าบาดนิดหน่อยด้วย"



บทความแนะนำ


เทคโนโลยีสโลเวเนียธรรมชาติสมาร์ตโฟนผู้ชายความรักผู้หญิงGmailทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก