วิจัยชี้ ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน ช่วยทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้
การเลี้ยงดูลูก
ให้เติบโตเป็นคนประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องมาจากการอบรมสั่งสอนที่ดี
ซึ่งเริ่มต้นได้จากในบ้าน
และไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะทำได้
คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านก็หวังอยากให้ลูกของตัวเองประสบความสำเร็จกันใช่ไหมล่ะ
คะ แต่ว่ากว่าที่จะลูกจะเติบโตผ่านแต่ละช่วงวัย
คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องอบรมบ่มนิสัยให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเขา
เพื่อให้เขาได้เรียนรู้และรับมือกับตัวเองได้อย่างเหมาะสมกับพัฒนาการในช่วง
วัยนั้น ๆ และการที่จะสั่งสอนลูกให้เติบโตไปเป็นคนประสบความสำเร็จ
หรือเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะทำได้ค่ะ
วันนี้เราก็เลยขอนำบทความดี ๆ ที่จะทำให้การเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนไป ง่าย ๆ เพียงให้ลูกรู้จักช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นเอง
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ได้ทำการศึกษาวิจัยระยะยาว เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 ถึงปัจจุบัน
โดยนักวิจัยได้ระบุว่า 2
สิ่งที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเพื่อช่วยให้ชีวิตมีความสุขและประสบความสำเร็จใน
ชีวิตได้ คือ ความรัก และการมีจริยธรรมในการทำงาน
โดย Julie Lythcott-Haims
นักเขียนและอดีตผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ได้กล่าวเพิ่มเติมบนเวที TED Talk ว่า
จากการศึกษาวิจัยพบว่าความสำเร็จของลูก
เริ่มต้นขึ้นจากการทำงานบ้านในช่วงวัยเด็ก ยิ่งให้ลูกเริ่มต้นเร็ว
เขาก็จะยิ่งเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่หากบ้านไหนสปอยล์ลูก
ไม่ให้เขาลงมือทำงานอะไรเลย เขาก็จะคิดว่าเดี๋ยวยังไงก็ต้องมีคนมาทำให้
แล้วเขาก็จะซึมซับพฤติกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย
ซึ่งไม่เพียงแต่ทำงานบ้านเท่านั้น แต่อาจรวมถึงการเรียน การทำการบ้าน
เป็นต้น
คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเริ่มฝึกฝนเขา
ช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าพวกเขาตอบโต้หรือมีท่าทีขัดขืน ไม่อยากทำ
คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็น และค่อย ๆ
ทำให้เขาเห็นว่าการทำงานบ้านเป็นเรื่องที่สนุก
และช่วยทำให้บ้านของเราน่าอยู่ ค่อย ๆ ฝึกฝนจนเขาเกิดความเคยชิน แล้วลูก ๆ
ก็จะเกิดความเข้าใจจนทำเป็นนิสัยค่ะ
การให้ลูก ๆ ช่วยทำงานบ้าน เช่น ทิ้งขยะ
ล้างจาน ซักเสื้อผ้าส่วนตัว
จะช่วยให้พวกเขาคิดได้ว่าการทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ทำให้พวกเขามองเห็นความสำคัญของการทำงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเด็ก ๆ
ที่ได้ช่วยงานบ้านตั้งแต่ยังเล็ก
จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย
และจะเข้าใจความรู้สึกทุกข์ยากของคนอื่นได้ดี
เพราะว่าเขาเคยผ่านประสบการณ์ความยากลำบากจากการทำงานบ้านมาแล้วด้วยตัวเอง
โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้จากตำราใด ๆ
และจากงานศึกษาวิจัยยังพบอีกว่า
ยิ่งเด็ก ๆ ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านมากเท่าไร
เมื่อเขาโตขึ้นก็จะยิ่งมีความสุขในชีวิตมากขึ้น
อีกทั้งการทำงานบ้านยังช่วยสานสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้อบอุ่นแน่นแฟ้น
เกิดความรักความอบอุ่นภายในครอบครัวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
เห็นข้อดีของการให้ลูกช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วใช่ไหมคะ
หวังว่าจะเกิดประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายไม่มากก็น้อย
เพราะนอกจากบ้านจะสะอาดแล้ว
ยังเป็นการฝึกฝนให้เขารู้จักการช่วยเหลือตัวเองและช่วยเหลือคนอื่น
เพื่อให้ชีวิตสามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ
อีกทั้งยังส่งผลให้เขาเติบโตเป็นคนดี รู้จักการเข้าสังคม เข้าใจชีวิต
เข้าใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานอันดีที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตนั่นเองค่ะ
ข้อมูลจาก : distractify.com, inc.com