สุดทน!! ครูน้อยทนไม่ไหว ครูใหญ่อมทุนการศึกษาเด็กยากจน 3 ปีซ้อน ร้องไปหลายที่แต่ไม่คืบ

ครูประจำชั้นโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่การศึกษา จ.สุราษฎร์ธานีสุดทน ครูใหญ่อมเงินทุนการศึกษานักเรียนยากจนติดต่อกันมา 3 ปีซ้อน คณะกรรมการศึกษายื่นหนังสือร้องไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่เรื่องไม่คืบ ล่าสุดตัดสินใจนำเด็กนักเรียน เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตัวแทนสภาทนายความ ภาค 8 และสมาคมนักข่าว จ.สุราษฎร์ธานี เร่งติดตามช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนที่กำลังลังเดือดร้อนหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ค. 60) น.ส.นิด (นามสมมุติ) อาจารย์ประจำชั้นประถมการศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อม ด.ญ.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี นักเรียนประจำชั้นประถมการศึกษาที่ 4 และ ด.ญ.ใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนประจำชั้นมัธยมการศึกษาที่ 1 เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ผู้บริหารสำนักงานศรีวิชัยทนายความ ตัวแทนสภาทนายความ ภาค 8 และ นายมงคล ทาหอม นายกสมาคมนักข่าว จ.สุราษฎร์ธานี

โดย น.ส.นิดได้ระบุว่า โรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมปีที่ 3 จำนวน 186 คน มีเด็กนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ได้รับทุนการศึกษานักเรียนยากจนในแต่ละภาคเรียนกว่า 40 คน โดยเด็กประถมจะได้คนละประมาณ 500 บาท เด็กชั้นมัธยมจะได้คนละประมาณ 1,500 บาทเศษ ในแต่ละปีผู้อำนวยการโรงเรียนได้ให้เด็กเซ็นซื่อรับทุนโดยไม่ผ่านอาจารย์ประจำชั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 จนถึง 2560 ซึ่งเด็กนักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์และเซ็นซื่อไปกับผู้อำนวยการโรงเรียน กลับไม่เคยได้รับทุนแม้แต่รายเดียว จนคณะกรรมการศึกษาโรงเรียนทนไม่ได้ จึงยื่นหนังสือเรื่องร้องเรียนไปยังพื้นที่เขตการศึกษา แต่เรื่องเงียบหายไป

ล่าสุดได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.สุราษฎร์ธานี ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจนำเด็กนักเรียนเข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความภาค 8 และสมาคมนักข่าว จ.สุราษฎร์ธานี ให้ช่วยติดตามเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เด็กนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์รับทุนการศึกษานักเรียนยากจนมีกว่าร้อยละ 60 เป็นเด็กที่ผู้ปกครองมีรายได้น้อยและกำลังอยู่ในความลำบากมาก จึงวอนขอให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อช่วยเด็กนักเรียนเหล่านี้อย่างเร่งด่วน

ด้านนายสมบูรณ์ ได้กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนด้วยวาจาแล้ว จะเร่งดำเนินการติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าวไปยังพื้นที่เขตการศึกษาและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี หากพบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป