เที่ยวแบบชิคๆ @ ระยอง ฉบับ 3 วัน 2 คืน

เรามีโอกาสไปเยือนระยอง ตอนช่วงต้นเดือนเมษายน แม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงหน้าผลไม้ แต่ก็มีเรื่องประทับใจกลับมาเล่าให้ฟัง ทริประยองของเรารอบนี้ คือ ความตั้งใจจะไปพักผ่อน โดยเลือกพักที่ Centara Q Resort Rayong (เซ็นทารา คิว รีสอร์ท ระยอง) ที่อ่าวไข่ แหลมแม่พิมพ์

เรารีวิวโรงแรมไปแล้วที่ Link นี้ Centara Q Resort Rayong รีสอร์ทริมทะเล กับบรรยากาศเก๋ๆ ริมชายหาดส่วนตัว ตามไปอ่านกันได้นะคะ

ทริป 3 วัน 2 คืน ของเราไม่ได้มีแค่การไปพัก Centara Q Resort เท่านั้น เรายังออกไปเที่ยวอีกหลายที่ เริ่มจากวันแรก เดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนสายๆ ก่อนเข้าห้องพัก แวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน ตำนานป่า ร้านนี้เราเคยมาเมื่อหลายปีก่อน ชอบบรรยากาศ ชอบความร่มรื่น เลยแวะมาอีกรอบ ตอนที่เรามาเจอทัวร์กรุ๊ปใหญ่ แอบหวั่นใจ ต้องรออาหารนานแน่เลย แต่ผิดคาด อาหารมาไวกว่าที่คิดและที่สำคัญรสชาติดีเหมือนเดิม เดินเล่นย่อยอาหารแป๊บนึง ก็เข้าไปเช็คอินที่เซ็นทารา คิว รีสอร์ท ระยอง

สั่งเมนูง่ายๆ ปลากะพงทอดน้ำปลา, ยำผักกูด, กุ้งแช่น้ำปลา, ยำเห็ดสามอย่าง, ทอดมันปลา

ตำนานป่า ร้านอาหารและรีสอร์ทที่อยู่ : ถนนสุขุมวิท ต.เพ อ.เมือง จ.ระยองเปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.โทร. 0 3892 8222, 0 81578 2655Facebook : ตำนานป่า ร้านอาหารและรีสอร์ท

วันแรกพอเข้าที่พักก็ไม่ได้ออกไปไหน เน้นเดินเล่นพักผ่อนอยู่ใน Centara Q Resort ตั้งใจว่าอีก 2 วันที่เหลือค่อยออกไปเที่ยว

DAY 2

เช้าวันรุ่งขึ้น ออกไปเที่ยว อนุสาวรีย์สุนทรภู่ เป็นที่แรก เคยมาระยองหลายครั้งส่วนใหญ่มาทะเลแล้วก็กลับ รอบนี้ขอแวะสักการะสักหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง ที่นี่นอกจากจะมี อนุสาวรีย์สุนทรภู่ แล้วยังมีบ้านทรงไทยหลังเก่า และมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมด้วย

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ต้องออกตัวก่อนเลยว่า เราชอบเที่ยวแบบนี้อยู่แล้ว ชอบเดินดูพิพิธภัณฑ์ที่เป็นรวบรวมของเก่า เพราะการเที่ยวแบบนี้ นอกจากจะได้ความรู้ยังจะได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ (บางอย่างเราก็โตไม่ทัน) แม้จะเคยไปเที่ยวมาหลายที่ แต่ประทับใจที่นี่มากๆ เพราะกว้างขวาง จัดวางของอย่างเป็นหมวดหมู่ เดินชมโซนโน้นโซนนี้ เพลินกันทั้งแก๊ง

ที่นี่มีการจำลองบรรยากาศโรงภาพยนตร์เก่า ร้านอาหาร ร้านถ่ายรูป ร้านตัดผมชาย ร้านเสริมสวย ห้องเรียน ธนาคาร ร้านขายทอง ร้านของชำ รถมอเตอร์ไซค์ ห้องพักแบบโบราณ เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ

โซนชั้น 2 เป็นการรวบรวมนาฬิกาไม้โบราณ โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกๆ เหรียญและธนบัตรเก่า เตารีด แจกัน ตะเกียงโบราณ

ด้านนอก เป็นโซนที่รวบรวมรถยนต์โบราณ ไปจนถึงจักรยานและสามล้อ เรียกได้ว่า ที่นี่ มีครบทุกอย่างจริงๆ ถ้าใครมีโอกาสได้มาระยอง แล้วยังไม่เคยมา เราแนะนำเลย

ราคาบัตรเข้าชมสถานที่ คนไทย ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 80 บาท (กำนัน 100 บาท อันนี้เป็นค่าเข้าชมที่เขียนไว้ขำๆ )

พิพิธภัณฑ์บ้านครูกังที่อยู่ : 162/6 ม.5, ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยองเปิดทุกวัน 09.00-16.00 น.โทร. 08 7129 9405Facebook : พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง

ระหว่างทาง แวะเที่ยว Mee D ฟาร์มปูนิ่ม แต่เราเพิ่งทานอาหารเช้ามาจากโรงแรม เลยแวะแป๊บเดียว เอาไว้โอกาสหน้าค่อยมาชิมเมนูอร่อยๆ จากปูนิ่มละกัน

เดินทางกันต่อไปยัง สะพานประแสสิน สะพานที่ตั้งเด่นอยู่ใจกลางเมือง

จุดนี้จะมองเห็นวิถีชีวิตชาวประมงสองฟากฝั่ง ไหนๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะเก็บภาพกันสักนิดนึงละกันนะ

ไปเที่ยวกันต่อที่ ทุ่งโปรงทอง เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าโกงกางและวิถีชาวประมง ตอนแรกตั้งใจจะแวะเที่ยวอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส แต่เป็นช่วงกำลังซ่อมแซมพอดี เลยไม่ได้แวะ

ตอนมาถึง ทุ่งโปรงทอง ภาพแรกที่เห็นคือ ชาวบ้านจะพากันมาจับปูไปขาย นั่นแสดงว่าธรรมชาติที่นี่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้เขียวขจี ปูยังมีเยอะอยู่

ก่อนเดินเที่ยว ขอเก็บภาพประทับใจกันก่อน จากนั้นก็เดินเที่ยวกันตามสไตล์ ใครจะเดินเร็ว เดินช้า ใครจะถ่ายรูปก็แล้วแต่เลย

ระยะทางเกือบ 3 กม. อาจจะดูเหมือนไกล แต่เดินไปเดินมาก็เพลินดีเหมือนกัน แต่แนะนำว่า ถ้าจะเดินเที่ยว ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อน จะได้เดินกันแบบยาวๆ รวดเดียวจบ ตอนที่เราไปอากาศครึ้มๆ ก็เลยไม่ค่อยร้อนเท่าไร

การมาเที่ยว ทุ่งโปรงทอง ส่วนใหญ่จะเพลิดเพลินไปกับการเดินถ่ายรูปและสูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่อนเราซื้อกล้องใหม่ เข้าทางเธอเลย ดูท่าทางจะถ่ายรูปสนุกกว่าเพื่อนคนอื่นๆ

ที่นี่ไม่ได้มีแค่ป่าโกงกางนะ ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาก็สวยสะดุดตา ถ่ายรูปเท่าไรก็ไม่เบื่อ

ลูกอะไรสักอย่างที่หล่นอยู่ตามทาง ยังถ่ายรูปออกมาสวยเลย นี่แหละเสน่ห์จากธรรมชาติ

ไฮไลท์ของที่นี่ คือ ตรงนี้นี่เอง! ทุ่งโปรงทองสีเขียว สวยงามสมคำร่ำลือ... คุ้มแล้วที่เดินมาจนถึงจุดนี้

นี่คือ จุดหมายปลายทางของการเดินท่องเที่ยว ทุ่งโปรงทอง นั่งพักพอหายเหนื่อย ดูเวลาแล้วใกล้เที่ยงพอดี...

ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันที่ร้าน บ้านสุดสาคร โฮมสเตย์ ปากน้ำประแสร์

เมนูร้านนี้มีทั้ง น้ำพริกไข่ปู, แกงคั่วปู, ปลาอินทรีทอดน้ำปลา, ยำปลากะพงฟู, แกงป่าปลา

เพิ่งรู้ว่า ร้านสุดสาคร มีวิวสวยๆ แบบนี้ด้วย ถ่ายรูปนี้ตอนบ่ายโมง พวกเรานั่งชิลล์เหมือนแดดไม่ร้อนเลยนะ 555 (แต่จริงๆ แล้วมันร้อนมาก) เที่ยวพอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็กลับไปพักที่โรงแรม Centara Q Resort Rayong

บ้านสุดสาคร โฮมสเตย์ ปากน้ำประแสร์ที่อยู่ : ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยองโทร. 08 1177 1778, 08 6345 8373

DAY 3

เผลอแป๊บเดียว นี่ก็วันที่สามแล้ว เช้านี้เช็คเอาท์จาก Centara Q Resort Rayong แล้วไปเดินเล่นกันที่ถนนยมจินดา ถนนสายเก่าที่มีเสน่ห์และความชิคอยู่ในตัว เราเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก เพื่อนบอกว่า มาที่นี่ต้องแวะชิมก๋วยเตี๋ยวที่ร้านบ้านสะพานไม้ จะสั๋งก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก็แล้วแต่ชอบ (ร้านนี้มีแต่ก๋วยเตี๋ยวหมูอย่างเดียวเท่านั้นนะ)

อิ่มท้องกันแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง เค้ามีงานแสดงศิลปะของเจ้าของบ้านไว้ให้เราไปถ่ายรูปเก๋ๆ

จากนั้นเดินเที่ยวเล่นต่อ ถนนยมจินดาแห่งนี้ นอกจากร้านบ้านสะพานไม้เป็นร้านยอดฮิตแล้ว ใกล้ๆ กันมีพิพิธภัณฑ์เมืองระยอง ให้แวะถ่ายรูปกันด้วย

เดินต่อไปอีกนิด ก็จะถึงร้านราย็อง ร้านเด่นอีกร้านของถนนสายนี้ นี่คือ บรรยากาศร้านเก่า ก่อนที่จะขยับขยายเป็นร้านใหม่ที่ใหญ่และทันสมัยกว่าเดิม

แต่ถ้าใครชอบความคลาสสิกก็สั่งเมนูมาทานได้ เดี๋ยวพนักงานเค้าจะยกเมนูมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ร้านใหม่กับร้านเก่าอยู่ไม่ไกลกัน ชอบแบบไหนก็เลือกนั่งได้เลย

พวกเราเลือกนั่งร้านใหม่ คิดอยู่สักพักว่าจะสั่งอะไรดี แต่เป็นเพราะอิ่มกันมาจากร้านก่อนหน้านี้ เลยสั่งของหวานมาทานกันพอเป็นพิธี

เริ่มจากขนมปังปิ้ง

โรตีกระทะร้อน

น้ำผึ้งมะนาว และยาคูลท์ปีโป้ปั่น หวานๆ เปรี้ยวๆ เย็นชื่นใจ

ไอศกรีมโฮมเมดเค้าก็มีนะ ลองสั่งมาชิม 2 รสชาติละกัน นั่งเล่น เม้าท์มอยกันแป๊บนึง ก็ได้เวลากลับกรุงเทพฯ แล้วล่ะ ป่ะ! หมดเวลาสนุกแล้วสินะ สามวันสองคืนของเราผ่านไปไวเหลือเกิน ใครอยากเที่ยวแบบชิลล์ๆ ชิค ที่ระยอง ก็ลองชวนเพื่อนแล้วจัดทริปง่ายๆ แบบเราได้นะ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ บ๊าย บาย