จริงหรือนี่ ! ประกาศขายทิ้งแล้ว ! "KFC" ประกาศขายกิจการสาขาทั้งหมดในไทย !

อ่าน 1,493

"เคเอฟซี" เดินหน้าขายกิจการสาขาในไทยล็อตสุดท้ายอีก 244 สาขา

คาดกันยายนนี้แล้วเสร็จ เปิดกว้างพันธมิตรเดิมได้ทั้งซีอาร์จีกับอาร์ดี

เพื่อผันบทบาทสู่การเป็นผู้สนับสนุนแฟรนไชส์ 100% ตามนโยบายบริษัทแม่

นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี ประเทศไทย บริษัท

ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ

ประกาศเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา

หาผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อกิจการสาขาของร้านเคเอฟซีในไทยทั้งหมดที่บริหารโดย

ยัมฯ ขณะนี้มีอยู่อีก 244 สาขา โดยได้แต่งตั้งให้บริษัท ไพร้ซ์ วอเตอร์

เฮาส์ เป็นที่ปรึกษาการซื้อขาย

คาดว่าทั้งกระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้แจ้งให้พนักงานออฟฟิศกว่า 270 คน

และพนักงานร้านอีกกว่า 10,000 คน รวมทั้งซัปพลายเออร์พันธมิตรต่างๆ

ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว โดยที่ยัมฯ

ได้ปรับกลยุทธ์มาสู่บทบาทของการเป็นผู้ให้บริการแฟรนไชส์ 100%

มุ่งเน้นการบริหารและพัฒนาแบรนด์และสนับสนุนแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ

ได้แจ้งให้พนักงานออฟฟิศกว่า 270 คน และพนักงานร้านอีกกว่า 10,000 คน

รวมทั้งซัปพลายเออร์พันธมิตรต่างๆ ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว

โดยที่ยัมฯ ได้ปรับกลยุทธ์มาสู่บทบาทของการเป็นผู้ให้บริการแฟรนไชส์ 100%

มุ่งเน้นการบริหารและพัฒนาแบรนด์และสนับสนุนแฟรนไชส์

ปัจจุบันเคเอฟซีในไทยมีทั้งหมด 586 สาขา แบ่งเป็นของยัมฯ 244 สาขา

สัดส่วน 42% ซีอาร์จี 219 สาขา สัดส่วน 37% และอาร์ดี 123 สาขา สัดส่วน 21%

(จะเป็น 130 สาขาตามสัญญาเดิมในอีก 4 เดือนนี้)

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่แล้วยัมฯ

เพิ่งบรรลุข้อตกลงในการขายกิจการสาขาเดิมกว่า 130

สาขาให้กับแฟรนไชส์รายใหม่คือ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลลอปเม้นต์ จำกัด

หรืออาร์ดี

ตามนโยบายของบริษัทแม่ที่จะใช้กลยุทธ์ให้แฟรนไชส์เป็นผู้ดำเนินการแทน

ในต่างประเทศที่ดำเนินการตามรูปแบบนี้ก็เช่น แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย

แอฟริกาใต้ เป็นต้น ซึ่งประสบความสำเร็จดีธุรกิจเติบโตมากขึ้น

ล่าสุดคือที่จีน ก็เพิ่งเปลี่ยนแปลงเสร็จปลายปีที่แล้ว โดยแยกออกไปเป็น

ยัมส์ไชน่า เพื่อดูแลร้านกว่า 7,000 สาขาทั้งหมด ส่วนยัมฯ

เองก็ไม่ได้ลงทุนและบริหารแล้วจะเป็นเจ้าของแบรนด์

ทั้งนี้ ตามแผนงานปี 2560 แบ

รนด์เคเอฟซีทั้งหมดจาก 3 รายจะลงทุนร่วมกันประมาณ 1,035

ล้านบาทในการขยายสาขารวม 52 แห่งปีนี้ แบ่งเป็นไดรฟ์ทรู 15 แห่ง

และจะคงสัดส่วนการบริการดีลิเวอรีครอบคลุม 50% ของสาขาเคเอฟซีทั้งหมด

และอีก 700 ล้านบาทเป็นงบการตลาด

แต่เมื่อการขายแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจเสร็จตามแผนแล้ว ทางยัมฯ

ก็จะหยุดการลงทุนขยายสาขาเพื่อปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางแฟรนไชส์

การทำงานจากนี้ไปเรามี Brand Advisory Council ซึ่งประกอบไปด้วย

แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล, จีเอ็มของ ซีอาร์จี, จีเอ็มของอาร์ดี

และผู้บริหารจากยัมฯ ที่ดูแลเคเอฟซี 244 สาขา

เพื่อเป็นคณะทำงานการวางนโยบาย ทั้งขยายสาขา การตลาด การพัฒนาต่างๆ

เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งแฟรนไชส์จะเป็นผู้ลงทุนสาขา

ส่วนงบการตลาดนั้นจะมาจากการหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขายของแต่ละรายเพื่อเข้า

กองกลาง โดยมีทีมการตลาดของยัมฯ เป็นผู้ดูแลบริหาร

อ้างอิงภาพและข้อมูลข่าวจาก :tvpoolonline.com,fb.tsgclub.net/59393/



บทความแนะนำ


ล่ำซ่ำนวลพรรณเตือนภัยมาดามแป้งถ่ายแบบแก๊งมิจฉาชีพรถไฟฟ้าบีทีเอสข่าวบันเทิงคัลเลอร์ฟูลฟอกสีผมทำสีผมทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก