ยกเลิกสหกรณ์ เคหสถานนพเก้ารวมใจ ถอนเงินสดเหลือ 0 บาท พร้อมแจ้งความ ผู้บริหาร ยักยอกทรัพย์
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แถลง ถึงการเข้าดำเนินการตรวจสอบปัญหาความโปร่งใสในการดำเนินงานของ สหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ จำกัด ว่า นายทะเบียนสหกรณ์ ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ให้ยกเลิกสหกรณ์แห่งนี้แล้ว
เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะ การปิดบัญชีของสหกรณ์ นอกจากนี้ยังได้มอบให้ผู้ชำระบัญชีของสหกรณ์นพเก้าฯ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ สน.มีนบุรี ให้ดำเนินคดี กับกรรมการของสหกรณ์ในข้อหายักยอกทรัพย์ รวมทั้งประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์มาคืนให้สหกรณ์และผู้เสียหาย
สำหรับ สหกรณ์หลักๆ ที่นำเงินมาฝากกับสหกรณ์นพเก้าฯ มี 3 แห่ง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี จำกัด ฝากเงิน 113 ล้านบาท ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด ฝากเงิน 915 ล้านบาท มีที่ดินค้ำประกัน และชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด ฝากเงิน 4,485 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ธนกิจไทยมีสมาชิก 35 สหกรณ์ นำเงินมาฝากถึง 5,750 ล้านบาท และมี 41 สหกรณ์ที่ถือหุ้นในสหกรณ์ธนกิจไทยเป็นเงิน 734 ล้านบาท
ขณะนี้สถานะทางการเงินของ สหกรณ์นพเก้าฯ มีเงินสดในบัญชี 0 บาท แต่มีสินทรัพย์ที่ดินหลายแปลง ซึ่งบริษัทกลางของเอกชนประเมินราคารวมได้ 6,900 ล้านบาท แต่กรมประเมินราคาเบื้องต้นได้เพียง 1,000 กว่าล้านบาท ขณะที่เงินฝากเข้ามาสหกรณ์นี้มีรวม 5,513 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินหรือมูลหนี้ที่สหกรณ์นพเก้าฯต้องคืนหากมีผู้มาขอถอนคืนทั้งหมด
นอกจากนี้ยังพบว่า รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ซึ่งถูกจับกุมตัวในคดีฉ้อโกงอยู่ในขณะนี้นั้น ได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของชุมนุมสหกรณ์ธนกิจ ในช่วงที่นำเงิน 4,485 ล้านบาทมาฝากกับสหกรณ์นพเก้าฯอีกด้วย จึงได้ขอให้ ปปง.เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของสหกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องทันที
ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้สหกรณ์ที่นำเงินมาฝากทั้ง 3 แห่ง ดำเนินการตรวจสอบมูลค่าหลักประกันว่าเพียงพอกับมูลหนี้หรือไม่ โดยให้คณะกรรมการของแต่ละสหกรณ์สอบข้อเท็จจริงเพื่อหาผู้รับผิดชอบภายใน 15 วัน
หากพบว่ามีการทุจริตให้ร้องทุกข์ภายใน 3 วัน และหากพบเป็นการกระทำโดยประมาทให้เรียกชดใช้ภายใน 15 วัน ถ้าไม่ชดใช้ให้ฟ้องคดีภายใน 15 วัน และกรมก็จะส่งหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ตรวจสอบมาตรฐานบริษัทเอกชนที่ประเมินราคาที่ดินให้กับสหกรณ์นพเก้าฯด้วย
สำหรับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจที่นำเงินมาฝากนั้น เป็นการถือหุ้นจากสหกรณ์ออมทรัพย์ 56 แห่งไปลงทุนกับสหกรณ์นพเก้าฯ
อาทิ ร้านสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีธุรกรรมต่อสินทรัพย์ ร้อยละ 35.06
สหกรณ์ออมทรัพย์ เอสยูอี จำกัด ร้อยละ 32.38 สหกรณ์ออมทรัพย์
โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ร้อยละ 17.58 สหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อพนักงาน
เครือสหพัฒน์ ร้อยละ 16.05นอกจากนี้ยังมีสหกรณ์ออมทรัพย์
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร้อยละ 4.27
สหกรณ์ออมทรัพย์กองบัญชาการทหารอากาศร้อยละ 2.87
สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานเลขานุการกองทัพบกร้อยละ 0.03
สหกรณ์ออมทรัพย์หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษร้อยละ 3.94
สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ร้อยละ0.18
สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ร้อยละ0.17
สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกระทรวงศึกษาร้อยละ 5.31 เป็นต้น
