รู้เท่าไม่ถึงการณ์! สาวอ้างเป็นหลานอัยการคลิปว่อน พบตร. ขอโทษคู่กรณีขับรถชน โดน 3 ข้อหา

อ่าน 8,214

จากกรณีที่มีการแชร์คลิป ในเพจ "แหม่มโพธิ์ดำ" ถึงเหตุการณ์ที่มีหญิงสาวสองรายมีปากเสียงกันหลังเกิดอุบัติเหตุขับรถชนท้าย ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเลียบทางด่วนรามอินทรา - เอกมัย เหตุเกิดวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยสาเหตุที่มีประชาชนให้ความสนใจแชร์คลิปดังกล่าว เนื่องจากหญิงสาวที่ขับรถยนต์ชนท้ายมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายในการด่าคู่กรณี และยังมีการอ้างว่า เป็นหลานของอัยการท่านหนึ่ง ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนในสังคมออนไลน์

ในวันนี้ พลตำรวจตรีนันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมด้วย พันตำรวจเอกสุพล ค้ำชู ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ได้เชิญ นางสาวน้ำทิพย์ อายุ 33 ปี และนางสาวธันยกานต์ อายุ 26 ปี สองหญิงสาวคู่กรณีในคลิปดัง มาเจรจาที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เนื่องจาก ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินการเอาผิด คู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ต้องมีการเชิญคู่กรณีทั้งสองมาเจรจาเพื่อทำความเข้าใจและยุติเหตุการณ์นี้ นางสาวน้ำทิพย์ ผู้เสียหาย ระบุว่าในส่วนของเหตุการณ์รถชนกัน เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ติดใจ

แต่ที่เข้าแจ้งความเนื่องจาก คู่กรณีไม่ยอมอยู่เคลียร์ในจุดเกิดเหตุและพยายามจะออกจากจุดเกิดเหตุ โดยให้ตนเองที่เป็นผู้เสียหายตามไปที่คอนโดของนางสาวธันยกานต์ โดยอ้างว่ามีธุระ แต่เมื่อไปถึงกลับโดนต่อว่าและด่าทอโดยใช้คำพูดหยาบคาย ข่มขู่ และยังมีการอ้างว่าเป็นหลานอัยการ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่พอใจ จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

ขณะที่นางสาวธันยกานต์ รับสารภาพว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามคลิปขึ้นจริง แต่ไม่ได้มีการอ้างว่าเป็นหลานของอัยการ ตามที่ผู้เสียหายเข้าใจ และเป็นที่วิจารณ์ของสังคมออนไลน์ ซึ่งในส่วนของค่าเสียหายได้ให้ทางบริษัทประกันดำเนินการชดใช้ตามขั้นตอน พร้อมขอให้ประชาชนที่เสพสื่อโซเชียล ให้ใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาอย่างตนด้วยเช่นกัน

พลตำรวจตรีนันทชาติ ระบุว่า ในส่วนของการดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้ง 3 ข้อหาแก่นางสาวธันยกานต์ คือ ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท , ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย มีโทษปรับ 400-1000 บาท ซึ่งยืนยันว่าได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อให้ทางศาลพิจารณา โดยขอฝากให้ประชาชนที่เกิดเหตุลักษณะนี้ ขอให้ใจเย็นและติดต่อประกันของตนเองมาเจรจา หรือหากเจรจาไม่ได้ให้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปจัดการทางคดีต่อไป



บทความแนะนำ


ความสวยความงามเมืองไทยดอยอินทนนท์เขื่อนเชี่ยวหลานกรีดรถข่าวล่าสุดผู้หญิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก