ขับรถเที่ยว แวะพัก แวะกินโคตรจะฟินในปากช่อง ฉบับ2วัน1คืน

อ่าน 14,847

ช่วงนี้ฝนเริ่มตกลงมาแถบจะทุกวัน...คนชอบเที่ยวอย่างเราเลยต้องเปลี่ยนแผนเที่ยวอยู่ตลอดเวลา แต่ขอเที่ยวแบบใกล้ๆ ไม่ต้องขับรถไปไกลมาก ครั้นจะไปเที่ยวนครนายกก็ไปมาซะหลายรอบแล้ว เลยขอจัดทริปสั้นๆ ตะลอนเที่ยวเขาใหญ่ ปากช่อง กันซะเลย นอกจากอากาศจะดีแล้ว ยังได้พักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย

สำหรับการเดินทางไปเขาใหญ่ ปากช่องนั้น สามารถไปได้หลายทางค่ะ ซึ่งเราเดินทางไปโดยรถยนต์ หากใครไม่มีรถก็สามารถไปได้ดังนี้ค่ะ

รถประจำทางรถกรุงเทพ-นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 4.00 - 20.00 น. ออกทุก 20 นาที ใช้เวลาวิ่ง 2.30 ชม. ไปลงที่อำเภอปากช่อง จากหน้าสถานีขนส่งปากช่อง ต่อรถสองแถวใหญ่ ประจำทางที่จะขึ้นเขาใหญ่ ที่ออกทุก 30 นาที ค่ารถ 30 บาท ติดต่อบริษัทราชสีมาทัวร์ โทร. 0-2936-1615, 0-4424-5443

รถไฟใช้บริการรถไฟที่สถานีหัวลำโพงออกจากกรุงเทพฯไปยังปากช่อง (สายตะวันออกเฉียงเหนือ) ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ 1690

รถตู้กรุงเทพ ? ปากช่อง - Scenical World ขึ้นรถข้างสวนสันติภาพ ซ. 3 (เทวดาพลาซ่า) อนุสาวรีย์ชัยฯ รถออกทุก 2 ชั่วโมง เที่ยวแรกออก 06.00 น. ค่ารถ 300บาท/คน/เที่ยว โทร.0896161952, 0899003097,088 482 3912

รถยนต์ส่วนตัวใช้เส้นถนนพหลโยธินผ่านรังสิตถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพผ่านอำเภอมวกเหล็ก ผ่านห้างโลตัสแล้วเลี้ยวขวาขึ้นสะพานไปทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (กม.ที่ 58) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์)

ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก : http://www.scenicalworld.com

Day1 : เขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์ม-The Mew Khao Yai-The Tale Cafe+$$$$$! And Gallery -DusitD2 Khao Ya-ครัวลุงชุบ

และแล้วก็ถึงวันเดินทางที่ขอบอกว่าตื่นเต้นสุดๆ เพราะเราไม่เคยไปเที่ยวเขาใหญ่-ปากช่องเลย ทริปนี้เลยขอลากน้องชายไปด้วยอีกคน เราใช้เวลาเดินทางจากแถว ม.กรุงเทพไปยังเขาใหญ่ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง โดยออกจากบ้านกันตอน 7 โมงเช้าค่ะ

ขับรถกันไปเรื่อยๆ ก็เขาสู่ถนนธนะรัชต์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเส้นแหล่งท่องเที่ยวของเขาใหญ่เลยก็ว่าได้ ซึ่งเราขอแวะเที่ยวที่แรก "เขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์ม" เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงเกษตร เปิดให้บริการทุกวันเวลา 8.00-17.00 น.

ภายในมีฟาร์มเห็ดเพื่อสุขภาพที่สามารถเก็บเห็ดด้วยตนเองในโรงเพาะ เพื่อนำกลับไปปรุงอาหารที่บ้านหรือให้ทางเขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์มปรุงให้ก็ยังได้ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิธีการเพาะเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ เพื่อเป็นความรู้ได้อีกด้วย

ออกจากเขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์ม มาก็เกือบ 11 โมงแล้ว ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้ทานเลยขอหาร้านอร่อยทานระหว่างทางกันหน่อย "The Mew Khao Yai" ร้านอาหารเปิดใหม่สุดเก๋ สะดุดตาตั้งแต่แว่บแรกที่เห็น เพราะถูกออกแบบในสไตล์โรงนาท่ามกลางสวนสวย ในบรรยากาศสบายๆ

มีเมนูให้เลือกทานทั้งอาหารและขนมหวานที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและรสชาติที่อร่อย อย่างเมนู ข้าวผัดน้ำพริกปลาแซลมอนทอด 215 บาท เนื้อปลาชิ้นใหญ่และสดมากๆ หมูย่างผึ้งน้อย (150 บาท) เป็นหมูย่างสมุนไพรนุ่ม เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวสองสี หมูนุ่มเข้ากันได้ดีกันน้ำจิ้มแจ่ว ระหว่างรออาหารสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปได้ด้วยน๊าาาาาาา

ทานอาหารกันจนอิ่มท้องแล้ว....หนังตาเริ่มหย่อนต้องหากาแฟทานสักแก้ว "The Tale Cafe and Gallery" เป็นร้านที่น่ารักมากๆ ใครที่ชื่นชอบตัวการ์ตูนต้องแวะมานั่งร้านนี้ให้ได้เลยค่ะ เพราะบรรยากาศของร้านเต็มไปด้วยของสะสมหายากจากทุกมุมโลก เช่น Snoopy, kitty และมาริโอ้

ระหว่างรอกาแฟก็ถ่ายรูปกันได้แบบชิลล์ ชอบมากๆ เลยค่ะ แถมราคาของเครื่องดื่มและอาหารก็ไม่แพงมากอีกด้วย อย่างแก้วนี้ Espresso เย็น 70 บาท กลิ่นกาแฟหอมติดจมูกมากแถมรสชาติก็กลมกล่อมอีกด้วย

แวะกิน แวะเที่ยวกันมาเยอะแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว ทริปนี้เราขอพักกันที่ "DusitD2 Khao Yai" เป็นที่พักเปิดใหม่ ซึ่งเราจองจากอะโกด้าก่อนมาเป็นห้องดีลักซ์ เตียงแฝด (Deluxe Room - Twin Bed) 2,457 รวมอาหารเช้าค่ะ

โรงแรมในรูปแบบโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ มีความโดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้าล็อบบี้กับวงเวียนน้ำพุ พร้อมกวางเรนเดียร์สีดำ สะดุดตาอีกครั้งกับโคมไฟที่มีคาแรกเตอร์สุดๆ มีบริการ Welcome Drink น๊าาา

ขอบอกก่อนว่าที่เช็คอินเวลา 14.00 น. และ เวลาเช็คเอาท์ 12.00 น. ระหว่างทางเดินไปที่พักก็สำรวจรอบๆ กันค่ะ

ถึงแล้วห้องดีลักซ์ เตียงแฝด ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ทุกห้อง ว้าวววววว ภายในหรูหรามาก เพียบร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งทีวีแอลซีดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการชงชา/กาแฟ และอ่างอาบน้ำ

จัดการเก็บกระเป๋าแล้วออกไปเดินเล่นรอบๆ ที่พักกันดีกว่า แม้ว่าจะบ่ายแล้ว แต่ที่นี่อากาสดีมากๆ ค่ะ ชอบสุดๆ

มาพีกที่นี่มีกิจกรรมที่สนุกมากๆ คือ การปีนหน้าผาจำลอง ซึ่งจะมีพนักงานให้คำแนะนำก่อนเล่นด้วย...

แต่ที่เราชอบสุดๆ ต้องมุมนี้ "Cocoon" รังไหมบนยอดไม้ให้บริการอาหารมื้อเย็นที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากมุมนี้

หรือจะเป็นมุมทานอาหารริมสระน้ำก็เริ่ดไม่แพ้กันค่ะ

และเนื่องด้วยเรานัดเพื่อนไว้ข้างนอก เย็นนี้เลยขอฝากท้องไว้ที่ร้าน "ครัวลุงชุบ" เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ สไตล์การตกแต่งร้านเรียบง่าย แต่อาหารนั้นอร่อยมาก ขอบอกต่อแบบดังๆ

อย่างเมนู ไข่ตุ๋นหม้อไฟ 160 บาท มาหม้อใหญ่มาก ใส่กุ้งตัวโตมาแบบซะใจ ต่อด้วยแกงส้มชะอมทอด 180 บาท รสชาติจี๊ดจ้านถึงเครื่องแกงส้ม และยำตะใคร้ 100 บาท ได้มาแบบจานโต เรียกได้ว่ากิน 3 คน อิ่มพุงกางเลยทีเดียว

ก่อนเข้านอนขอเก็บบรรยากาศรอบๆ ที่พักยามค่ำคืนกันหน่อย บรรยากาศดี๊ดี นี่ถ้าไม่เหนื่อยจะชวนน้องออกมานั่งเล่นชมดาวแบบชิลล์ๆ เลยล่ะ

Day2 : Scenical World-Primo Piazza-ร้านอาหารเป็นลาว

ตื่นเช้ามาพร้อมอากาศที่สดใส รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทานอาหารเช้า เพราะวันนี้เรามีทริปไปตะลอนสวนน้ำ Scenical World กัน

บรรยากาศของห้องอาหาร Musi Grill เราสามารถนั่งด้านนอกริมสระว่ายน้ำรับลมเย็นสบายๆ หรือจะเข้าไปข้างในก็แอร์เย็นฉ่ำก็ได้ค่ะ ในส่วนของอาหารเช้านั้นได้มาตรฐานของโรงแรม มีเมนูทั่วๆ ไปค่ะ

สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ...อิ่มท้องแล้วก็เก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ แล้วไปตะลอนเที่ยวกันต่อ ไหนๆ จะมีเวลาเที่ยวทั้งที ก็ขอเที่ยวให้คุ้มไปเลยยยย

ขับรถออกจากที่พักไปประมาณ 14 กิโลเมตร ก็ถึงสวนน้ำและสวนสนุก "Scenical World" แล้วค่ะ ที่นี่เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ใกล้เขาใหญ่ที่มีกิจกรรมให้เลือกเล่นหลากหลายโซนทั้งไลฟ์ปาร์ค สแปลชเวิล์ดและโซนมิดเวสต์

เราขอเลือกเล่นกันที่โซน สแปลชเวิล์ด ซึ่งจะเสียค่าเข้าคนละ 890 บาท รวมค่าเข้าสวนน้ำและค่าเครื่องเล่นทุกชนิดในสวนน้ำเลยค่ะ

ภายในสวนน้ำมีเครื่องเล่นให้เลือกมากมายแล้วแต่ชอบ แถมยังมีมุมของเด็กเล็กด้วย เรียกได้ว่าสามารถมาสนุกกันได้ทั้งครอบครัว เรียกได้ว่ามาที่เดียวสามารถทำกิจกรรมได้ทั้งวันเลยค่ะ

เล่นน้ำกันจนจุใจแล้ว...ก็ได้เวลากลับกรุงเทพ แต่ระหว่างทางขอแวะเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ เพราะมาเขาใหญ่-ปากช่องทั้งทีจะไม่แวะ "Primo Piazza" ก็เหมือนมาไม่ถึง ที่นี่ถูกออกแบบ โดยมีแนวคิดในการนำสถาปัตยกรรมจากแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี มาจำลองไว้

ซึ่งมีมุมสวยๆ หลากหลายให้ได้ถ่ายภาพกันมากมาย พร้อมฟาร์มน้องแกะ อัลปาก้า ลาดองกี้น่ารักๆ ด้วย แต่จะเสียค่าเข้าคนละ 100 บาท และหากใครหิวที่นี้ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ไวhคอยบริการด้วย แต่เราขอไปฝากท้องกันข้างนอกค่ะ

"เป็นลาว" ร้านอาหารที่เราขอแวะทานอาหารกันก่อนกลับ ที่นี่บริการอาหารไทย-อีสานรสแซ่บ ซึ่งเจ้าของสร้างสรรค์เมนูอร่อยๆ จนเป็นที่ถูกใจลูกค้าที่แวะมาลิ้มลอง

ในวันที่เราไปโชคดีที่คนไม่ค่อยเยอะ เลยได้อาหารไว ซึ่งอาหารที่สั่งคือไก่นาย่างสมุนไพร ครึ่งตัว 100 บาท เนื้อไก่รสชาติดี หอมกลิ่มสมุนไร ซุปหน่อไม้ 60 บาท จานนี้ชอบมากเนื้อหน่อไม้กรุบๆ อร่อยดี แกงลาว (120 บาท) นำเห็ดสามอย่างมาแกง รสชาติเผ็ดร้อนมากๆ และ ข้าวเหนียวดำ 20 บาท เป็นอันว่าอิ่มพุงกางกันเลยค่ะ

สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวแบบใกล้ๆ ลองขับรถไปเที่ยวเขาใหญ่กันดูนะค่ะ เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายรอให้เราไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติเขาใหญ่ วันนี้ขอตัวก่อนนะค่ะ บ๊าย บาย...

สรุปค่าใช้จ่าย (2คน)ค่าน้ำมัน = 1,000 บาทค่าอาหารกลางวัน = 380+300 บาทค่ากาแฟ = 140 บาทค่าที่พัก+อาหารเช้า = 2,457 บาทค่าอาหารเย็น = 460 บาทค่าเข้า Scenical World = 1,780 บาทค่าเข้า Primo Piazza = 200 บาท

รวมค่าใช้จ่าย = 6,717 บาท



บทความแนะนำ


ท่องเที่ยวความรักผู้หญิงความเชื่อดูดวงผู้ชายทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก