ระทึกกลางเวหา! ประสบการณ์จำไม่ลืม.เมื่อคุณหมอ(มือใหม่)ถูกเรียกช่วยชีวิตชายสูงวัยแน่นหน้าอก ชีพจรแผ่วเบาฟื้นคืนสติอีกครั้ง

อ่าน 3,084

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sitthisuk Aiyara" โพสต์เล่าเหตุการณ์ว่า

***ประสบการณ์นั่ง Business Class ครั้งแรก*** จากนักท่องเที่ยวกลายเป็นหมอบนเครื่องบิน คือวันนี้ระหว่างหลับอยู่ในเครื่องได้ยินเสียงคำว่า doctor doctor เลยสะดุ้งตื่น(เราใส่หูฟังที่เครื่องบินให้มาอยู่ เนื่องจากดูหนังค้างไว้) ตอนแรกคิดว่าฝัน แต่เสียงมันดังขึ้นมาอีกครั้ง จับใจความได้ว่า ตอนนี้มีผู้ป่วยหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก ถ้าผู้โดยสารท่านใดเป็นหมอให้แสดงตัวความรู้สึกที่แล่นเข้ามาคือ เอาไงดีๆๆ มีหมอท่านอื่นไหม มีหมอที่จะมีประสบการณ์มากกว่าเราไหมยังไงดีๆ พึ่งจบหมอสามปีเอง ยังไงดีๆขณะเดียวกันก็รีบดันตัวขึ้น นั่งตรง เพื่อดูสถานการณ์(คือเตี้ยอะ ตอนแรกหัวไม่พ้นเบาะข้างหน้า เลยถูกบัง)ปรากฎว่าคนไข้อยุ่ห่างจากเราไปข้างหน้า ประมาณ4-5 แถว แล้วคือคนก็รุมๆกัน คนไข้เป็นชาวอาหรับซึ่งอยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงจริงๆ

ตอนนั้นคือ เอาว่ะ ทำให้ดีที่สุด ก็เหมือนตรวจคนไข้แบบที่เคยทำมาตลอดแหละเราก็เลยวิ่งไปดูคนไข้ถามว่าเป็นยังไงบ้าง คนไข้ก็พูดภาษาที่เราไม่คุ้นหูกลับมาแต่ลูกสาวคนไข้สื่อสารได้ดีมาก ใช้ภาษาอังกฤษได้ เลยคอยเป็นคนกลางให้ คนไข้บอกเวียนหัว เหมือนหน้าจะมืด รู้สึกหายใจไม่สะดวก มือเราก็จับชีพจรคนไข้ไปด้วย ซึ่งรู้สึกว่า เบามาก (ไม่full) จึงหันไปบอกกับสจ๊วตและแอร์ ให้จับคนไข้นอนลงเอาออกซิเจนมาให้ และขอsteth มาให้ผมเอามือไปตรวจที่คอ ชีพจรยังโอเคอยู่ ลูกสาวแจ้งเพิ่มว่า คนไข้มีโรคประจำตัวเป็น โรคหัวใจ เราจึงให้เค้าเอายามาให้เราดู สรุปมีทั้งยา เบาหวาน ความดัน ไขมัน ยาหัวใจ ระหว่างนั้นเอา steth ฟังปอด clear ดี หัวใจไม่มี เสียงผิดปกติ ตรวจขาสองข้าง ไม่บวม ไม่คล้ำ ไม่มีปากเบี้ยวหน้าเบี้ยวอะไร หันไปบอกให้สจ๊วตเอาที่วัดความดันมาให้ ระหว่างนั้น ก็เลยว่าจะให้น้ำเกลือคนไข้ใส่ถุงมือเรียบร้อย ให้เอา สายรัดแขนมา(ได้สาย foley cath.ในตอนแรก) พอรัดเสร็จ เห็นเส้นคนไข้ลางๆ (คนไข้เป็นคนรูปร่างใหญ่ เส้นค่อนข้างหายาก)จะเริ่มทำการเจาะเส้นให้สารน้ำ

ปรากฎเข็มที่ให้มา เป็นแบบเข็มเจาะเลือด ไม่ใช่เข็มให้น้ำเกลือ ต้องไปเอาใหม่ ตอนนั้นคือ ชุลมุนมากๆพอได้เครื่องวัดความดันมา ซึ่งใหม่มาก ห่ออย่างดี ต้องมาประกอบเองอีกพันแขนคนไข้เรียบร้อย จะกดให้เครื่องวัด ไม่ทำงานอีกตาเหลือบไปเห็นถุงใส่ถ่านเปล่าอยู่4 ก้อน จึงรีบหงายเครื่องวัด เปิดฝาออก พบว่าไม่มีถ่านจริงๆ จึงใส่เข้าไปและวัด พบความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติดีแล้ว คนไข้บอกไม่ต้องให้น้ำเกลือแล้ว

หลังได้ออกซิเจนดีขึ้นแล้ว ไม่แน่นหน้าอก หายใจสะดวกขึ้น เราคลำชีพจร ตอนนี้เต้นแรงดีเลย วัดความดันซ้ำ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติหลังจากนั้นเค้าก็พาคนไข้ไปนอน business class (ตอนแรกคนไข้นอนตรงพื้น ฝั่ง Economic ค่อนข้างแคบขวางทางเดิน)เราบอกให้เค้าเอา oxygen ไปคลอบไว้ก่อน หัวหน้าให้เราย้ายจาก Economic class ไปนั่งข้างๆ คอยดูอาการเป็นระยะและเขียนอาการ+การรักษาเพื่อให้คนไข้นำไปโรงพยาบาล หรือให้หมอประจำตัวหัวหน้าให้ แชมเปญ เรามาขวดนึง เป็น complimentary

จริงๆ เราว่าเราแทบไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เลยแต่ลูกสาวคนไข้ ขอบคุณเราหลายรอบมาก จนรู้สึกเขินเลย =='ตัวคนไข้ก็ยกนิ้วโป้ง กับ ทำนิ้วโอเคเป็นระยะๆเพราะเราหันไปมองบ่อยมาก5555สรุป** เราดีใจนะ ที่เราได้เป็นหมอเราดีใจนะ ที่เรากล้าออกมาทำอะไรแบบนี้จริงๆมันอาจไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรหรอกแต่มันทำให้รู้สึกมีคุณค่าในตัวเองมากขึ้นมาโพสต์ ไม่ได้หวังว่าจะให้หมั่นไส้ หรือ จะมาอวดอะไรนะครับอย่าว่าผมเลยนะครับ _/_แต่หวังให้คนที่อ่าน กล้าที่จะทำสิ่งดีๆ ทำเถอะครับ ถ้าการกระทำนั้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังเกิดประโยชน์กับผู้อื่นอีก"



บทความแนะนำ


เจลว่านหางจระเข้โปรโมชั่นว่านหางจระเข้ฮวงจุ้ยทำเลท้องมังกรเจลว่านหางXclusiveSFGDestinationFashionCentralSaleChidlomถูกและดีทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก