เผยวิธีตรวจร่องรอยของเลือด ฝังแน่นเป็นปี-ล้างยังไงก็ไม่ออก

สืบเนื่องคดีฆาตกรรม อาจารย์ภาควิชาเคมีเผย วิธีพิสูจน์คราบเลือด ในวงการนิติวิทยาศาสตร์นิยมใช้สาร "ลูมินอล" ทำปฏิกิริยากับ ฮีโมโกลบิน ทำให้แสงเปล่งออกมา ส่วนวิธีตรวจหาคราบอสุจิเรืองแสงได้ ใช้แค่ UV black light ส่องตอนปิดไฟมืด

รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ภาพและข้อความสืบเนื่องมาจากคดีฆ่าหั่นศพ โดยระบุถึงการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในทางนิติวิทยาศาสตร์ การอำพรางคราบเลือด แม้ล้างออกจากรถจากพื้นแล้ว ก็ยังสามารถตรวจหาคราบเลือดได้ โดยใช้สารเคมีที่ชื่อว่า ลูมินอล (Luminol) เป็นสารเคมีที่นิยมตัวหนึ่งในวงการนิติวิทยาศาสตร์ ใช้ตรวจร่องรอยของเลือดได้ ซึ่งหน่วยงาน Crime Scene Investigation หรือ CSI ของสหรัฐฯ จะใช้บ่อยเพื่อหาร่องรอยของเลือด ถึงแม้ว่าจะใช้ไม้ถูพื้นทำความสะอาดลบรอยเลือดไปแล้วก็ตาม แต่ถ้าไม่ใช้สารเคมีช่วย ล้างรอยเลือด รอยเลือดจะติดอยู่นานเป็นปีโดยที่คนเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า วิธีการคร่าวๆ คือสารลูมินอลจะทำปฏิกิริยากับ ฮีโมโกลบิน (สารสำคัญในเม็ดเลือดแดง) ทำให้แสงเปล่งออกมา กระบวนการนี้เรียกว่า Chemiluminescence

นอกจากคราบเลือดแล้ว ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา การตรวจคราบอสุจิคร่าวๆ ในสถานที่เกิดเหตุนั้น หน่วยงาน CSI นิยมใช้หลอด UV black light ส่อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเก็บพยานหลักฐานไปตรวจดีเอ็นเอหาตัวบุคคลต่อไป การตรวจหาตัวบุคคลจากคราบอสุจิ สามารถตรวจหาได้ เนื่องจากในน้ำอสุจิมีสารเคมีหลายตัวดูดกลืนแสงสีม่วงได้ (366 nm) การตรวจสอบคราบอสุจิบนเสื้อผ้าก็ใช้วิธีปิดไฟมืดแล้วเปิดหลอดไฟอัลตร้าไวโอเลต UV black light (แสงสีม่วง) บริเวณที่เป็นคราบอสุจิก็จะเรืองแสงขึ้นมา

ขอบคุณที่มา: http://www.thaitribune.org/contents/detail/329?content_id=27863&rand=1496273475https://www.facebook.com/phutdhawong/posts/1367525013337805