15 สิ่งต้องรู้ วิธีขับรถในญี่ปุ่น ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด

อ่าน 5,803

ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อยากขับรถเที่ยวญี่ปุ่น จะต้องเริ่มต้นอย่างไร มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิธีขับรถในญี่ปุ่นอะไรบ้าง

ดูได้ที่นี่ การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด ได้เที่ยวญี่ปุ่นในแบบที่ไม่เหมือนใคร ดีต่อใจสุด ๆ

การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว

เพราะปัจจุบันญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวให้รองรับต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะการเดินทางที่มีรถไฟฟ้าให้บริการทั่วทั้งญี่ปุ่น

แต่การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะก็อาจจะจำกัดเงื่อนไขบางประการในการเดินทาง

จึงมีหลายคนอยากที่จะขับรถเที่ยวเองในญี่ปุ่น

ซึ่งคนไทยก็สามารถทำได้ไม่ยาก

เพียงแต่ต้องศึกษาถึงกฎระเบียบและกฎจราจรของญี่ปุ่นให้เข้าใจอย่างละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

สำหรับใครที่อยากขับรถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

มาดูทางนี้ค่ะ เราได้รวบรวมเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับวิธีขับรถในญี่ปุ่น มาฝากกัน จะน่าสนใจขนาดไหนนั้น ไปดูกันเลย

จาก Patryk Kosmider / Shutterstock.com

1. ใบขับขี่สากล

เป็นเอกสารสำคัญที่นักท่องเที่ยวที่ต้องการขับรถเที่ยวในญี่ปุ่นจะต้องมี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำใบขับขี่สากลได้ที่ dlt.go.th

2.

การเช่ารถในญี่ปุ่น จะมีหลายบริษัทให้บริการเช่ารถในญี่ปุ่น

ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีให้จองแบบออนไลน์ด้วย

วิธีการเลือกบริษัทเช่ารถก็ให้เลือกที่สะดวกต่อการไปรับรถมากที่สุด

รวมทั้งควรศึกษาด้วยว่าเส้นทางที่เราจะไปนั้นเป็นเส้นทางไหน จะต้องซื้อ

Express way Pass แบบเหมาหรือไม่ เพราะบางทีมีโปรโมชั่นลดราคา

แต่ก็จะซื้อได้กับเพียงบางบริษัทเท่านั้น

3.

สิ่งที่จำเป็นต้องแจ้งเวลาจองรถเช่า เช่น ชื่อ-นามสกุล,

เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ (บางบริษัทบังคับว่าต้องมี),

วันที่ออกเดินทาง/สถานที่รับรถ, วันที่คืนรถ/สถานที่คืนรถ,

ประเภทของรถที่ต้องการ

(คำนึงถึงพื้นที่ในการใส่สัมภาระและจำนวนผู้โดยสารเป็นหลัก),

จำนวนผู้โดยสาร, บริการเสริมที่ต้องการ เช่น ที่นั่งเสริมสำหรับเด็ก

เป็นต้น

ภาพจาก Phuong D. Nguyen / Shutterstock.com

4. ค่าประกันรถยนต์

ส่วนใหญ่บริษัทให้เช่ารถยนต์จะรวมค่าประกันอุบัติเหตุและค่าประกันภัยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ไว้ในค่าบริการพื้นฐานแล้ว

(ตรวจสอบอีกครั้งกับบริษัทที่ให้บริการเช่ารถยนต์)

5.

โดยส่วนมากรถยนต์เช่าของญี่ปุ่นจะติดตั้งระบบ GPS ไว้ทุกคัน

แต่อย่าลืมให้พนักงานตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษด้วย สิ่งหนึ่งที่ดีมาก ๆ

สำหรับระบบ GPS

ในญี่ปุ่นก็คือสามารถที่จะค้นหาสถานที่ปลายทางได้จากเบอร์โทรศัพท์

ซึ่งสะดวกต่อการขับรถออกไปในเส้นทางนอกเมือง

6.

สิ่งที่สำคัญมาก ๆ

อีกอย่างที่ควรรู้สำหรับการขับรถในญี่ปุ่นก็คือปั๊มน้ำมัน

ซึ่งเราสามารถพบปั๊มน้ำมันได้บริเวณเมืองใหญ่

หากออกไปนอกเมืองก็จะมีน้อยหน่อย และก็จะไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง

เหมือนกับในเมือง ประมาณหกโมงเย็นก็เริ่มปิดแล้ว

เพราะฉะนั้นวางแผนเกี่ยวกับการเติมน้ำมันไว้ด้วย เผื่อฉุกเฉินน้ำมันหมด

แผนการเดินทางอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงตามไปอีก

ภาพจาก Anirut Thailand / Shutterstock.com

7. ปั๊มน้ำมันในญี่ปุ่นจะมีให้บริการ 2 แบบ

คือแบบบริการเต็มรูปแบบ หมายถึง จะมีพนักงานคอยบริการและเติมน้ำมันให้

และแบบบริการตัวเอง หมายถึง นักท่องเที่ยวจะต้องเติมน้ำมันรถด้วยตัวเอง

8. ควรต้องรู้กฎจราจรของญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด ข้อปฏิบัติที่ต้องรู้ เช่น

- ยินยอมให้คนเดินเท้าไปก่อน

คนญี่ปุ่นจะคำนึงถึงผู้ใช้ทางเท้าเป็นอันดับแรก

ผู้ขับขี่จะต้องให้ความระมัดระวังแก่คนเดินเท้าขณะขับรถยนต์

เวลาจะเลี้ยวรถบริเวณสี่แยก

ก็จะต้องหยุดรถเพื่อให้คนเดินเท้าได้ข้ามถนนก่อนที่ตนเองจะขับรถต่อไป

เพราะหากคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ

ส่วนใหญ่แล้วความผิดจะตกอยู่ที่ผู้ขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

- ประเทศญี่ปุ่นมีระบบเดินรถทางด้านซ้ายมือเป็นพื้นฐาน

- รถที่จะเลี้ยวขวาต้องรอก่อน

ต้องปล่อยให้รถที่มาจากทางตรงหรือรถที่กำลังจะเลี้ยวซ้ายไปก่อน

รถที่กำลังจะเลี้ยวขวาต้องรอให้รถที่มาทางตรงผ่านไปหมดก่อนถึงจะเลี้ยวได้

ภาพจาก Nor Gal / Shutterstock.com

- กฎจราจรญี่ปุ่นจะไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด หากต้องการเลี้ยวซ้ายจะต้องรอไฟเขียวเท่านั้น

- ทุกที่นั่ง รวมทั้งผู้โดยสารที่นั่งแถวหลังจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย

และกรณีที่มีเด็กจะต้องติดตั้งที่นั่งสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วย (Child Seat)

- หยุดรถให้สนิท ณ ป้ายสัญญาณหยุดรถ และที่ด้านหน้าทางข้ามทางรถไฟ

- งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่เด็ดขาด

- ห้ามขับขี่หากดื่มเครื่องดื่มมึนเมา

- ขับขี่ภายในความเร็วที่กำหนดไว้

อัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดบนถนนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรคือ 60

กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางสาธารณะ และ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางด่วน

- ให้ระวังในเขตพื้นที่ห้ามแซง

- ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรรูปลูกศร บางคนอาจสับสนที่เห็นไฟแดงแต่ลูกศรกลับเป็นไฟเขียว จากรณีนี้ให้ยึดมองตามลูกศร

9. การจอดรถ โดยส่วนมากแล้วจะห้ามจอดรถริมถนน ถ้าต้องการจอดให้ดูบริเวณที่มีบริการมิเตอร์หยอดเหรียญ (Coin Parking) ถึงจะปลอดภัยที่สุด

10.

การใช้ช่องทางด่วนของญี่ปุ่น ป้ายบอกทางที่แสดงถึงถนนธรรมดาจะมีสีฟ้า

ส่วนป้ายบอกทางขึ้นทางด่วนนั้นจะมีสีเขียว

ซึ่งบนทางด่วนก็จะมีแยกออกไปอีกคือช่องทางเดินรถสำหรับบุคคลทั่วไป,

ช่องทางเดินรถสำหรับผู้ที่ถือบัตร ETC

และช่องทางเดินรถที่รวมทั้งสองประเภทเข้าไว้ด้วยกัน

สำหรับนักท่องเที่ยวจะต้องใช้ช่องทางเดินรถสำหรับบุคคลทั่วไป

เพราะช่องทางเดินรถ ETC จำเป็นที่จะต้องถือบัตร ETC

ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่มีสิทธิ์ถือครอง

(แต่บางบริษัทเช่ารถยนต์จะมีให้เช่า)

11.

ตามมารยาทแล้วคนญี่ปุ่นจะเปิดไฟฉุกเฉินให้สัญญาณกับรถที่ตัวเองเพิ่งขับแซงพ้นขึ้นไป

เพื่อเป็นการบอกว่า "ขอบคุณ"

และจะสังเกตได้เลยว่าคนญี่ปุ่นจะขับรถตามกันไปอย่างมีระเบียบ

ไม่แซงซ้ายแซงขวา และขับรถน่าหวาดเสียว

12. ไม่ควรขับรถในเวลากลางคืน และขณะที่มีหิมะอยู่บนถนน เนื่องจากอันตราย

13. หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ปฏิบัติ ดังนี้

* 13.1หาสถานที่จอดรถให้ปลอดภัยที่สุด

*13.2ติดต่อ 119 เพื่อเรียกรถพยาบาลในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บ

*13.3ติดต่อ 110 เพื่อเรียกตำรวจและทำตามขั้นตอนที่ตำรวจแนะนำ

*13.4ติดต่อบริษัทที่ให้บริการรถเช่า และทำตามขั้นตอนที่บริษัทรถเช่าแนะนำ

ทั้งนี้หากเป็นเหตุการณ์ เช่น รถเสีย, น้ำมันหมด นักท่องเที่ยวสามารถที่จะโทร. ติดต่อบริษัทรถเช่าได้เลย

14. ป้ายสัญญาณจราจรในญี่ปุ่น

15. สามารถดูคู่มือการขับขี่รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นอย่างละเอียดได้ที่เว็บไซต์ jnto.or.th

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

jnto.or.th, jnto.or.th, jnto.or.th, jnto.or.th, rent.toyota.co.jp, dlt.go.th



บทความแนะนำ


เที่ยวญี่ปุ่นRegattaEndIvyRoyalSeasonSaleสีเล็บการทาเล็บเพ้นท์เล็บโปรโมชั่นออนเซ็นบ่อน้ำพุร้อนทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก