เปิดประวัติไม่ธรรมดาของ "บิว" ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูน "สามเณรปลื้ม" ก่อนจะขึ้นเป็นเจ้าแม่คุมวัด แล้วกอบโกยผลประโยชน์จนมีทรัพย์สินหลายสิบล้าน

อ่าน 12,006

กรณีคดีฆ่าโบกปูน "สามเณรปลื้ม" อายุ 17 ปี ภายในวัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช ของ 3 ผู้ต้องหาคือ นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น อายุ 36 ปี / น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว อายุ 40ปี / นายสุริยา กุศลสุข หรืออดีตสามเณรสุริยา อายุ 18 ปี ซึ่งขณะนี้ถูกจับกุมแล้ว และตำรวจกำลังตามล่าผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 รายนั้น

ล่าสุด "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานเรื่องราวของ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว ภรรยาของนายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา

โดยพบว่าสามีเก่าของ น.ส.ปิยฉัตร เป็นตำรวจชุดสืบสวนของโรงพักแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อ 10 ปีก่อน เคยโดนจับข้อหาล่อลวงนักศึกษา ซึ่งเป็นหลานสาวนายอำเภอ มาสอบสวนในฐานะพยาน ที่เห็นเหตุการณ์นักศึกษาทะเลาะวิวาทกัน ก่อนจะวางยาแล้วพาไปรุมโทรมที่บังกะโลแห่งหนึ่ง จนถูกให้ออกจากราชการ และศาลพิพากษาจำคุก 20 ปี

แต่สามีเก่าของ น.ส.ปิยฉัตร กลับหลบหนีคดีระหว่างประกันตัว ทำให้อดีตนายอำเภอต้องตั้งรางวัลนำจับสูงถึง 1 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังตามจับกุมตัวอดีตสามีของ น.ส.ปิยฉัตร ไม่ได้

หลังจากนั้น น.ส.ปิยฉัตร จึงต้องหอบลูกไปหาบ้านเช่าที่อื่น และมีสามีใหม่อีกหลายคน ก่อนไปตั้งแผงขายน้ำปั่น บริเวณประตูวัดวังตะวันตก และเริ่มตีสนิทกับพระชั้นผู้ใหญ่ในวัด พร้อมถ่ายรูปเอาไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ จากนั้นก็มามีความสัมพันธ์กับนายเด่นชัย

ก่อนเข้ามาฮุบการบริหาร และจัดเก็บผลประโยชน์ในวัด ทั้งค่าเช่าแผงค้าขาย รวมถึงที่จอดรถ และให้ปลดคณะกรรมการวัดออกทั้งหมด พร้อมตั้งนายเด่นชัยเป็นไวยาวัจกรวัด ที่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว โดยมี น.ส.ปิยฉัตร คอยบงการอยู่เบื้องหลัง

จนปี 2558 พระชั้นผู้ใหญ่ทนไม่ไหวหนีออกนอกวัด แต่ น.ส.ปิยฉัตร ก็ยังไปตามกลับมา

ล่าสุด ได้เรียกเจ้าของร้านค้ามาทำสัญญาเช่าใหม่ 30 ปี ซึ่งเรียกเก็บค่าเช่าครั้งเดียวทันที 300,000 บาท

โดยหลังเข้ามาบริหารวัดจนมีฐานะร่ำรวย น.ส.ปิยฉัตร ซื้อบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชมูลค่า 3-5 ล้านบาท และซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีมีรถเก๋งหรู 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และทรัพย์สินอื่น ๆ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30-40 ล้าน

ส่วนพระและสามเณรในวัด ไม่มีใครกล้ายุ่งกับ น.ส.ปิยฉัตร เพราะหากใครแข็งข้อ จะถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ซึ่งชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ พร้อมเคยเตือนให้ น.ส.ปิยฉัตร และนายเด่นชัย หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งสองกลับบอกว่าบาปกรรมไม่มีจริง หากมีจริงพระและสามเณรที่ทำชั่ว คงได้รับกรรมกันไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ คนในพื้นที่ยังเชื่อว่า สาเหตุการฆ่าฝังศพสามเณรปลื้ม ไม่ได้มาจากที่ไปขโมยเงิน และสร้อยทองคำของ น.ส.ปิยฉัตร แต่มาจากการที่สามเณรปลื้ม ไปล่วงรู้ความลับหรือเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมบางอย่าง จึงถูกฆ่าปิดปาก



บทความแนะนำ


ข่าวดาราการศึกษาลูกสาวอัษฎาวุธเหลืองสุนทรKatyPerryทายาทคนบันเทิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก