"อาการปวดหัว"ใครว่าไม่สำคัญ ครอบครัวนี้ต้องสูญเสียแม่ไป หลังมีอาการปวดหัวได้แค่"2วัน "

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีคุณแม่ลูก 4 ณ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ลี บรอดเวย์(Lee Broadway) ทรมานจากอาการปวดหัวจากเมื่อต้นปี แต่ก็ปวดหัวไม่รุนแรงมากหนัก ทำให้ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก จนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาการปวดหัวของเธอก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนเธอไม่สามารถทนได้ สามี เอริค(Eric) จึงได้นำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที ในขณะที่หมอทำการตรวจเช็ค เอริคเห็นใบหน้าของภรรยาที่แสดงอาการเจ็บปวดยิ่ง

หมอพบว่า ลี เป็น "โรคหลอดเลือดในสมองโป่งพอง" โรคชนิดนี้พบน้อยมาก และไม่เคยมีประวัติผู้ป่วยที่เป็นโรคแบบนี้มาก่อน ลักษณะโรคนี้คือ เส้นเลือดในสมองของลีพองโตเหมือนลูกโป่ง ทำให้ไปกดระบบประสาทบริเวณรอบๆศีรษะ คุณหมอยังบอกอีกว่าอาการนี้ไม่รุนแรงมาก ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ขอเพียงแค่เข้ารับการผ่าตัดก็สามารถรักษาหายได้ ทำให้ลีและเอริคถอนหายใจโล่งอกไป

วันที่ 2 ที่ลีนอนรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเองใครก็คาดไม่ถึงว่า ในช่วงระยะสั้นๆเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการของลีรุนแรงมากขึ้นและมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง คุณหมอและทีมงานทั้งหมดรีบนำตัวลีเข้าห้องผ่าตัดและทำการช่วยชีวิต แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจของครอบครัวนี้ต้องแตกสลาย เอริคและครอบครัวไม่สามารถยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันนี้ได้ นั้นคือ ลีเสียชีวิต

ลีอายุ 41 ปี ตอนแรกคิดว่ายังต้องมีหนทางที่จะต้องเดินอีกยาวไกล คิดไม่ถึงว่าโรคร้ายจะทำให้ลีต้องจากไปอย่างกระทันหันแบบนี้ ร่างกายของลีถูกบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นๆ

จากการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า โดยเฉลี่ยร้อยละ 5-10%ของประชากรอจะมีโอกาสเป็น"โรคหลอดเลือดในสมองโป่งพอง" จะไม่มีอาการในระยะเริ่มแรก หากคุณสังเกตเห็นตนเองมีอาการดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจเช็คร่างกาย อย่าละเลยเด็ดขาด1.เกิดอาการเมื่อยล้าอย่างรุนแรงหรือเป็นลมหมดสติเป็นตะคริว2.ปวดคลื่นไส้และอาเจียน3.ปวดศีรษะอย่างฉับพลัน4.คอเคล็ดรู้สึกตึงๆบริเวณต้นคอ5.มีความไวต่อแสงคืออาการแพ้แสง6.รู้สึกแขนขาไม่มีเรี่ยวแรง7.โรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก