11 สัญญาณที่จะบอกว่า คุณไม่ได้มีเอวเอสอีกต่อไป

?ลดน้ำหนักได้แล้ววววววววววววววววววววววววววววววววว?

น้อง

นีสายแดรีกคูร่าเอวเอสอย่างเราๆท่านๆ

ย่อมให้ความสำคัญกับอาหารการกินมาเป็นอันดับหนึ่ง

ไม่ใช่เพียงเพราะเราอยู่เพื่อกินเท่านั้น

แต่ยังหมายถึงความเห็นอกเห็นใจชาวนาในการผลิต "แป้ง? เหล่าชาวบ้านผู้ผลิต

"ก้อนไขมัน? จากการทำปศุสัตว์ทั้งหลาย

รวมไปถึงเชฟของหวานมากมายที่อุตส่าห์คิดสูตรขนมออกมาได้อย่างยากเย็น

พวกเขาต่างต้องตรากตรำลำเค็ญให้พวกเราได้ท้องอิ่มกันแบบทุกวันนี้

แล้วจะให้ละเลยคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างไร

เมื่อเข้าสู่การเดินทางสายกลาง (กินตลอดกลาง

คือกินมันทั้งกลางวันและกลางคืน) ช่วงแรกนั้นยังไม่เท่าไหร่

เพราะความสบายใจจากการได้รับน้ำตาลและการไม่มีช่องว่างจังหวะให้ท้องร้อง

นั่นย่อมเป็นสุขในทุกวินาทีที่ผันผ่าน แต่เมื่อเริ่มเดินทางนี้มาสักระยะ

ก็ต้องบอกว่า แกกกกกกกกกกกกกก มันใช่เหรออออ ทางสายนี้มันใช่เหรออออ

รู้ตัวอีกทีคือกางเกงตัวโปรดมันใส่ไม่เข้าแล้วค่า ที่สำคัญคือ เรื่องกิน

มันก็หยุดไม่ได้เช่นกัน เพราะเสพติดการกินตลอดกลางไปเป็นที่เรียบร้อย

ถ้าปล่อยให้อ้วนมาก ห่วงยางสามชั้น หน้าบานเป็นลูกบาส

มือบวมเป็นลูกวอลเล่ย์ กลายร่างเป็นน้องนีเอวโอวววววววววววว

อาจจะยากเกินแก้ไข

วันนี้จึงขอแชร์ 11 สัญญาณที่จะบอกคุณว่า ?อ้วนแล้วนะ? เพื่อให้คุณได้รู้ว่าตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ ?เอวโอ!!!!? เป็นที่เรียบร้อย

1. ต้นขาเบียดกัน สุดยอดคลาสสิคอันดับต้นๆของสัญญาณความอ้วน

บอกเลยว่าเป็นอุปสรรคต่อการเดินหรือก็ไม่ เพราะขายังอยู่ครบ ไม่ได้ขาด

ไม่ถึงขั้นต้องรถเข็น (ถ้าต้องพึ่งก็ต้องคิดแล้วล่ะค่ะ)

แต่เป็นความหงุดหงิดที่ไม่เล็กเลยจริงๆ นอกจากสร้างความรำคาญใจได้แล้ว

เบียดมากๆก็เป็นแผลได้ด้วยค่า

2. ใส่ส้นสูงนานไม่ได้ เพราะน้ำหนักเยอะไงนังเด๋ออออออออออออออออ

กินมากระวังไขข้อเสื่อม ไม่ใช่เพราะเก๊าต์เพราะไก่อะไรหรอกนะ

3. เวลาไปซื้อเสื้อผ้าแล้วมีคำพูดติดปากว่า ?ใหญ่สุดเบอร์อะไร? หรือ

?นี่ใหญ่สุดแล้วเหรอ? ... หึ

หลายคนอาจท้วงว่าแบรนด์ไทยเสื้อผ้าไซส์ปั๊กไซส์ปอมๆ

พิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยการเดินเข้า H&M, ZARA รัวๆ

4. แต่งหน้าสเกลปกติ แต่คอนทัวร์หน้ายังไง แก้มก็ไม่ตอบ

หน้าไม่เห็นเล็กลงสักที สังเกตความผิดปกติได้ตรงที่เริ่มเพิ่มสีของเฉดดิ้ง

เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มปริมาณของเครื่องสำอางที่ใช้ในการลดขนาดหน้า

บางคนอ้วนออกตัว บางคนอ้วนออกแขน บางคนออกขา ก็ว่าหนักแล้ว

คนออกหน้านี่คือแบบน่าสงสาร แต่ข้อดีคือ รู้ตัวเร็วสุด

เพราะส่องทุกวันจริง

5. ตอนเดินออกจากบ้านไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากมื้อเย็นกับผองเพื่อนที่สยาม

คือนั่งและ ปุ๋ง!! ไม่ใช่เสียงตดนะ

แต่เป็นเสียงกระดุมที่พุงออกจากพุ่งนั่นเองงงงงงงงงงงง คือ มันแน่นนนนนน

อะไรขนาดนั้นอ่ะะะะ ในส่วนของหน้าท้องส่วนเกิน แต่เกินกว่าปกติมาหลายขุม

แล้วเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ปกติเริ่มรับไม่ได้ สัญญาณอันตรายระดับ 10 จริงๆค่ะ

6. รู้ตัวอีกทีคือกางเกงกระโปรง ใส่แต่แบบยางยืดหมดแล้วค่ะ!!!!!!

รุ่นตะขอรุ่นซิปพี่ขอบาย เพราะเอาพี่ไม่อยู่จริงๆ

7. เสื้อในคับ รัดจนเป็นเส้น ตอนซื้อก็จำได้ว่าลองแล้วลองอีก

ก็ใส่พอดีนะ ไปๆมาๆคือ ใส่แล้วอึดอัด รัดรึงเกินเหตุ

คิดได้อยู่สองอย่างเท่านั้น ไม่ซักแล้วหด ก็เพราะคุณอ้วนขึ้นนั่นแหละ!!!!

8. นั่งนานๆแล้วรู้สึกจุกตรงช่วงอก โดยเฉพาะบริเวณลิ้นปี่

เหล่านี้ไม่ใช่อาการทางเคมีแต่อย่างใด ปัญหาด้านกายภาพล้วนๆ

คือนั่งแล้วเนื้อมันแน่นทับกัน หรือเรียกง่ายๆว่า ไขมันจุกอก นั่นเองงงงงง

เป็นมากในคนที่นั่งหลังค่อมหลังงอ

9. มีคนลุกให้นั่งบนรถไฟฟ้า!! ถ้าคุณไม่ได้อายุ 7 ขวบ หรือมากกว่า 85

ต้องคิดแล้วนะคะว่าเค้าลุกให้ทำไม?? คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ..

10. เดินขึ้นบันไดเพียงหนึ่งชั้น 15 ขั้นก็เหนื่อยแล้ว

ยิ่งบันไดรถไฟฟ้าไม่ต้องพูดถึง อาจมีหอบในบางราย เพราะคนอ้วนเหนื่อยง่ายไง

จะอะไรล่ะ ถ้าถึงขั้นหน้ามืดก็ต้องคิดแล้วนะว่าของหวานบ่ายนี้

11. Worst Case คือ ล้างก้นไม่ถึง!! เพราะพุงมันใหญ่มากกกกกก

แขนขามันใหญ่ไปหมด เอื้อมไม่ถึงก้นนั่นเองงงง แบบบบบบ

หื้มมมมมมมมมมมอ่ะะะะะะะ รู้เลยนะคะว่าบ้านเป็นส้วมซึม

เป็นยังไงกันบ้าง เช็คลิสต์แล้วฟาดกันไปกี่ข้ออ่ะคะ เดี๊ยนนี่โดนไป 4

ข้อรัวๆ คือขึ้นรถไฟฟ้าแล้วหน้ามืด เสื้อในคับ ใส่ส้นสูงนานไม่ได้ และ

กระดุมแตก (สองครั้งในหนึ่งอาทิตย์) 5555555555555

ดังนั้นจึงต้องหมั่นสังเกตอย่างสม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสเต