อุดหนุนสารพัดความนัวจากครัวคน "เชียงคาน" มาแล้วต้องกิน!!

เชียงคานอำเภอ

ที่มีดีตั้งแต่ของกินยันที่เที่ยว และยังหมายรวมไปถึงวิถีชุมชน

กิจกรรมทางการท่องเที่ยว การเดินทาง

ซึ่งหากใครลองหาข้อมูลก่อนลงพื้นที่นั้นจะพบว่า เชียงคาน

เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นในเรื่องของอาหารการกินไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ไหนเลย

ในเมื่อมันดีขนาดนี้

เราก็เลยจะพาทุกคนไปสัมผัสกับสารพัดความนัวจากครัวคนพื้นถิ่นของเชียงคานกัน

ป้าสรวง ส้มตำด๊อกแด๊ก แซ่บนัวแบบเชียงคาน

ส้มตำด๊อกแด๊กจะ

ทำกันจานต่อจาน เป็นเส้นที่ทำมาจากแป้งขนมจีน

ต่างกันตรงที่ระหว่างบีบแป้งนั้นช่องที่แป้งไหลออกจะมีรูขนาดใหญ่ทำให้มี

ลักษณะอ้วนกลม ดูเด้งดึ๋งด๊องแด๊ง

เมื่อนำไปคลุกเคล้าเข้ากับเส้นมะละกอและเครื่องปรุงรสต่างๆ

ทำให้ได้รสชาติแซ่บลืมมม! มาบ้านเขาเมืองเขาก็ต้องกินอาหารของเขา

เพราะนอกจากจะทำให้เราเข้าถึงท้องถิ่นแล้ว

สิ่งเหล่านี้ยังเป็นเหมือนตัวช่วยเล็กๆ

ที่เราอาจมองข้ามว่ามีส่วนช่วยในความยั่งยืน

เพราะเมื่อเราอุดหนุนอาหารท้องถิ่น ชาวบ้าน

เขาก็จะยังคงผลิตความอร่อยในแบบท้องถิ่นสืบทอดกันไป นับเป็นเรื่องง่ายๆ

ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ป้าบัวหวาน ร้านหลักร้อยความอร่อยหลักพัน

ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว

ป้าบัวหวาน ร้านดีร้านเด็ดของคนรักเส้น คุณป้าบัวหวานบอกว่าจริง ๆ

แล้วข้าวปุ้นน้ำแจ่วก็คือขนมจีนนํ้าใสที่ได้สูตรข้ามนํ้าข้ามโขงมาจากฝั่ง

ลาว ซึ่งข้าวปุ้นก็คือขนมจีนที่เส้นเล็กกว่า

ส่วนน้ำแจ่วก็คือน้ำพริกของชาวอีสาน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ

ขนมจีนในต้มแซ่บเครื่องในหมูนั่นเองแต่ส่วนประกอบของข้าวปุ้นนํ้าแจ่วที่

แตกต่างจากขนมจีนทั่วไปก็คือ จะมีเครื่องในหมูที่ต้มจนสุก

แล้วใส่รวมมากับผักต่างๆ ทั้งผักบุ้ง กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ถั่วงอก

บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำนาป่าหนาด

เมนูพื้นบ้านของบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำนาป่าหนาดมีทั้ง แจ่วตาแดง

ซึ่งจะแตกต่างจากแจ่วของไทยด้วยปลาร้า หอมแดง และกระเทียม รวมถึง

ต้มไก่สมุนไพร และ

ส้มตำไทดำซึ่งรับรองว่าอร่อยแซ่บถูกปากแน่นอนนอกจากนี้ที่บ้านพิพิธภัณฑ์ไท

ดำนาป่าหนาดจะมีการจำลองอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือทำอาหาร เครื่องแต่งกาย

ประเพณีการทำ ?ตุ้มนกตุ้มหนู? ของชาวไทดำเอาไว้อย่างน่าสนใจ

ซึ่งตุ้มนกตุ้มหนูจริงๆ แล้วเป็นเครื่องราง

หากได้มาที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน

มะพร้าวแก้ว เคียงเลย ความหวานแบบเชียงคาน

จากของคาวสู่ของหวาน ขนมขึ้นชื่อที่เราคาดไม่ถึงว่าจะเป็นสินค้าโอทอปของเชียงคานนั่นคือ มะพร้าวแก้ว

ที่มีให้เลือกทั้งเกรด A B และ C

ซึ่งความหนาและความนิ่มของเนื้อมะพร้าวจะต่างกันออกไป ใครชอบนิ่มก็เลือก A

ใครชอบกรุบกรับก็เลือก C ถึงแม้ว่าเราจะเผลอใจหยิบชิมกันจนเพลิน

เครดิตจาก นิตยสาร BAREFOOT ฉบับเดือนกรกฎาคม 2016

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ www.mbookstore.com