7 ประเทศตามล่าแสงเหนือ ชมปรากฏการณ์แสงเต้นระบำบนฟากฟ้า
ประเทศที่มีแสงเหนือ รวมประเทศที่สามารถไปเที่ยวชมปรากฏการณ์แสงเหนือได้ จะมีประเทศไหนที่จะทำให้เราเห็นแสงเต้นรำบนฟากฟ้าได้บ้าง ไปดูกัน
ออโรร่า
(Aurora) หรือปรากฏการณ์แสงเหนือ
เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นได้อย่างอลังการ
ซึ่งการจะได้ชมปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลา
และต้องอาศัยดวงด้วย ถึงแม้จะมีการพยากรณ์การเกิดแสงเหนือ แต่ถ้าท้องฟ้าปิด
ก็ไม่ได้เห็นเช่นกัน
ซึ่งประเทศที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้จะอยู่บริเวณใกล้กับขั้วโลกเหนือ
วันนี้เราจึงได้รวบรวมประเทศที่สามารถเห็นแสงเหนือได้มาฝากกันค่ะ
เผื่อว่าใครมีแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศนั้น ๆ
จะได้พ่วงแผนเที่ยวชมแสงเหนือเข้าไปด้วยเลย ^^
1. ประเทศไอซ์แลนด์
ประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก
ระหว่างเกาะกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร
เป็นประเทศสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตามล่าหาแสงเหนือกัน
เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจสุด ๆ
โดยจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตั้งตารอคอยชมแสงเหนือจะอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ
เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในไอซ์แลนด์มากมาย
หนึ่งในนั้นก็คือ Kirkjufell Mountain เป็นภูเขารูปร่างสวยงามแปลกตา
บริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม
รวมทั้งน้ำตกที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร
ถ้าใครโชคดีได้เห็นแสงเหนือพอดิบพอดีในจุดนี้
คุณจะรู้เลยล่ะว่าโลกนี้มันสวยงามขนาดไหน
2. ประเทศฟินแลนด์
ประเทศฟินแลนด์ นอกจากจะมีระบบการศึกษาที่อยู่แนวหน้าของโลกแล้ว
ที่นี่ยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของธรรมชาติที่สวยงามมากมาย
เป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อย่างภูเขา
ทะเลสาบ ให้ได้ไปเที่ยวชิล ๆ ไม่รู้จบ
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฟินแลนด์ก็คือ
การมาชมแสงเหนือ โดยเฉพาะภูมิภาค Lapland
ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศฟินแลนด์
จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปรอชมแสงเหนือกันอย่างคับคั่งในแต่ละปี
ยังมีโรงแรมบางแห่งสร้างที่พักเป็นแบบ Glass Igloos
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นอนชมแสงเหนือกันอย่างจุใจได้ทุกค่ำคืน
ใครมีทุนทรัพย์เอื้ออำนวย ก็จัดไปเลยค่ะ สักครั้งในชีวิต ^^
3. ประเทศแคนาดา
ประเทศแคนาดา
เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
หากคุณมีโอกาสไปเยือนแคนาดา
คุณจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันสวยงามราวกับดินแดนในฝัน
ทั้งน้ำตกไนแองการ่า, ทะเลสาบเลค หลุยส์, เทือกเขาร็อกกี้ เมาน์เทน เป็นต้น
แต่ที่อลังการขั้นสุดก็คือ ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือออโอร่า (Aurora)
ที่จะสามารถพบเห็นได้ทางภูมิภาคทางด้านเหนือของประเทศ
โดยเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ เมืองเยลโลว์ ไนฟ์ (Yellowknife)
คุณจะได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำบนฟากฟ้าเหนือยอดสน ท่ามกลางอากาศที่ติดลบ
เป็นความประทับใจที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส
4. ประเทศกรีนแลนด์
ถ้าใครชอบเที่ยวชมธรรมชาติและชอบความเงียบสงบขั้นสุด กรีนแลนด์ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับคุณจริง
ๆ ค่ะ เพราะที่นี่มีประชากรอยู่เพียงแค่ประมาณ 60,000 คน ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ
ถ้าได้มีโอกาสไปเยือนกรีนแลนด์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบที่แท้จริง
เพราะแทบจะไม่ค่อยเห็นคนกรีนแลนด์เท่าไร
ส่วนจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมแสงเหนือก็จะอยู่ที่เขต Kangerlussuaq
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะกรีนแลนด์
ซึ่งจะมีวิวที่สวยงามและสามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน
5. ประเทศรัสเซีย
หลายคนคงจะสงสัยว่ารัสเซียสามารถชมปรากฏการณ์แสงเหนือได้จริง ๆ หรือ ?
ได้จริง ๆ ค่ะ คนรัสเซียทางภาคเหนือเขาชมกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
โดยเมืองที่สามารถชมแสงเหนือได้จะอยู่ที่บริเวณเมือง Murmansk
ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย
ใกล้กับชายแดนประเทศนอร์เวย์และประเทศฟินแลนด์ ที่นี่เป็นเมืองท่าที่สำคัญ
แต่ก็ไม่วุ่นวาย กลับมีเสน่ห์สวยงามน่าท่องเที่ยว
ยิ่งค่ำคืนไหนที่แสงเหนือปรากฏบนฟากฟ้า
ก็จะยิ่งสวยงามตระการตาน่าประทับใจมาก ๆ
ที่สำคัญคนไทยยังได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่ารัสเซียอีกด้วย
นั่นหมายความว่าแค่มีเงิน มีพาสปอร์ต ก็บินลัดฟ้าไปเที่ยวได้เลย
6. ประเทศนอร์เวย์
ประเทศนอเวย์
เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่าแสงเหนือ
เพราะอยู่ในเขต Arctic Circle
โดยเมืองที่จะสามารถชมแสงเหนือได้อย่างอลังการจะอยู่บริเวณเมือง Tromso
ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของประเทศนอร์เวย์
เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของประเทศ ที่นี่สวยงามด้วยวิวของทิวเขา ป่าสน
และทะเลนอร์วีเจียน อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ใครจะไปล่าแสงเหนือที่นี่
ต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและเสื้อผ้ากันเยอะนิดหนึ่งค่ะ
7. รัฐอะแลสกา ประเทศอเมริกา
อะแลสกา
เป็นอีกหนึ่งจุดที่อยู่ในแนวของการเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ
โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมแสงเหนือ ก็คือ เมือง Fairbanks
เพราะที่นี่เป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของอะแลสกา
จึงเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
และยังสามารถมองเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณตัวเมือง
ไม่ต้องขับรถไปไกลจากเมืองนากนัก จึงปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก
แต่ถ้าใครอยากได้วิวสวย ๆ ก็ต้องขับรถไปหามุมถ่ายรูปบริเวณนอกเมือง
ถ้ามีความฝันอยากเห็นแสงเหนือกันสักครั้งในชีวิต
ก็ต้องเริ่มวางแผนแล้วล่ะค่ะ
แต่รับรองได้เลยว่าถ้าคุณได้เห็นมันสักครั้งในชีวิต
ไม่ว่าคุณจะจ่ายไปเท่าไรสำหรับทริปนั้น แต่มันจะคุ้มค่ามาก ๆ เลยค่ะ
สะพายเป้ท่องโลกไปด้วยกันนะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
visitfinland.com, kakslauttanen.fi, auroravillage.com, greenland-travel.com, greenland.com, russiatrek.org, visitnorway.com, alaska.org, narit.or.th