เปิดใจ เหยื่อรถปาเจโร่ชนแล้วหนี เพื่อนคอหักชวดรับปริญญา
ความคืบหน้ากรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปอุบัติเหตุชนแล้วหนี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 31 ธ.ค.2559 เวลาประมาณ
17.40 น. รถยนต์คันก่อเหตุเป็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว
ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
ได้วิ่งเสียหลักเบียดเข้ากระแทกรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์
หมายเลขทะเบียน ตม 9938 กรุงเทพฯจนรถยนต์กระบะพลิกคว่ำหลายตลบข้ามเลนไปชนกับรถยนต์เก๋งที่วิ่งมาทางถนนเลนฝั่งตรงข้าม เหตุเกิดบริเวณถนนราชสีมา-ปักธงชัย ฝั่งขาออก บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านไชยมงคล ตำบลไชยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
โดยหลังเกิดเหตุชายคนขับรถยนต์ปาเจโร่
และหญิงสาวที่นั่งมากับรถได้เดินลงไปดูเหตุการณ์เป็นเวลานานกว่า 2 นาที
แต่สักพักชายคนขับรถก็ได้รีบขึ้นรถขับหลบหนีไปโดยไม่ยอมให้การช่วยเหลือคู่กรณีแต่อย่างใดซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดบนถนนสามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ และทางญาติของรถคู่กรณีผู้บาดเจ็บก็ได้นำคลิปภาพไปโพสต์เพื่อให้โลกออนไลน์ช่วยติดตามจับกุมคนขัยรถปาเจโร่มาดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก
นางสาวสาลิณี ศิริมงคล อายุ 23 ปี ผู้เสียหายที่ขับรถเก๋ง
ยี่ห้อโตโยต้าแคมรี่ ทะเบียน กค 5344 ลพบุรี ซึ่งขับอยู่เลนฝั่งตรงข้าม
และถูกรถกระบะอีซูซุพุ่งข้ามเลนเข้าชนอย่างจังว่าในช่วงเย็นวันที่
31 ธ.ค. นั้น ตนขับรถจากบ้านในจังหวัดสระแก้ว มากับเพื่อน 1 คน
คือนางสาวพรพิมล นามแสง อายุ 23 ปี
ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
แต่ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ
ตนก็ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกหลายแห่งตามลำตัวส่วนเพื่อนสาวที่นั่งมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บสาหัส
ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ซึ่งจากการใช้ทีซีสแกนพบว่ากระดูกต้นคอหักและไม่สามารถผ่าตัดได้
เนื่องจากเป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท
ซึ่งถ้าผ่าตัดอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้นตอนนี้จึงต้องดามและเข้าเฝือกคอไปก่อนโดยขณะนี้เสียค่ารักษาไปแล้วกว่า 1 แสนบาท ซึ่งพี่สาวของ น.ส.พรพิมล
เป็นผู้ออกสำรองให้ทั้งหมด
และภายหลังจากที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 25 วัน ขณะนี้
น.ส.พรพิมล ก็ได้ออกมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักของพี่สาวที่กรุงเทพฯสำหรับ น.ส.พรพิมล เพื่อนสาว เพิ่งเป็นบัณฑิตใหม่ จบการศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ สาขาพืชไร่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ก่อนเกิดอุบัติเหตุอยู่ระหว่างฝึกงานและเตรียมที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
ในวันที่ 23 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา
แต่ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุก่อนจึงเสียโอกาสไป ตอนนี้ก็ต้องกลายเป็นคนตกงานซึ่งทางแพทย์บอกว่าต้องดามกระดูกต้นคออยู่อย่างนี้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
ระหว่างนี้ก็ต้องเข้าแอ็กซเรย์ต่อเนื่อง
และต้องรักษาอาการอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 ปี
ซึ่งทำให้เสียโอกาสและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่เป็นต้นเหตุ
มาดูแลรับผิดชอบส่วนนี้ทั้งหมดด้วย