ดีเอสไอค้นวัดพระธรรมกาย พบซุกน้ำมันแสนลิตรหลังวัด
เมื่อวานนี้ (วันที่ 17 ก.พ.) ที่สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงผลการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย
เพื่อติดตามตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับตลอด 2 วันที่ผ่านมา ว่า
ได้เข้าค้นพื้นที่โซนเอ บี ซี ทุกอาคารทุกห้อง ไม่พบบุคคลตามหมายจับ
แต่ยังมีความจำเป็นต้องตรวจค้นพื้นที่ควบคุมภายนอกวัดพระธรรมกาย
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้วัดทราบว่าจะอนุญาตให้เข้าออกวัดในประตูใด
และเข้าใช้พื้นที่ใดได้บ้าง
โดยจะประเมินความเหมาะสมที่ต้องคงประกาศพื้นที่ควบคุมตามสถานการณ์ด้าน พนักงานสอบสวนยังมีข้อสงสัยในการตรวจพบอุปกรณ์ทางการแพทย์
โดยเฉพาะไฮเปอร์บาลิค แชมเบอร์
ที่เคยใช้เป็นห้องรักษาของพระซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้รักษาผู้บาดเจ็บจากการดำน้ำ
และจะประสานผู้เชี่ยวชาญให้เข้าตรวจสอบว่าเป็นอุปกรณ์การแพทย์ชนิดใด
ดังนั้นจึงต้องใช้อำนาจคสช.อายัดอาคารดาวดึงส์
ห้ามบุคคลเข้าออกและขนย้ายสิ่งของทั้งตัวอาคาร
และจะคงกำลังบางส่วนรักษาพื้นที่รอบวัด และพื้นที่ภายในบางส่วน
ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรีบบร้อยและป้องกันภัยแทรกซ้อน
และในวันนี้(18ก.พ.) จะมีการตรวจค้นต่อเนื่องแต่ไม่ขอเปิดเผยจุด
และจะเป็นการปฏิบัติการรอบบริเวณวัด ทั้งนี้แม้การตรวจค้นทั้ง 2วัน
จะไม่พบบุคคลตามหมายจับ แต่ชุดสืบสวนยังมีหน้าที่สืบสวนเพื่อติดตามจับสำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับอุโมงค์ใต้อาคารภาวนา 60
ปีซึ่งอาจใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกนอกวัด พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล
รองอธิบดีดีเอสไอ
ได้นำสื่อเข้าพิสูจน์ทราบว่าบริเวณใต้ดินใช้สำหรับกักเก็บน้ำและบำบัดน้ำหมุนเวียนไปใช้เป็นน้ำตก
บริเวณด้านบนอาคารมีความสูงประมาณตึก 12 ชั้น ทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคาร
ภายในอาคารเป็นทางเดินรูปตัวยู แยกซ้ายขวาด้านละ 1.5 กม.
ปลายทางทั้งสองด้านเป็นทางตันด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่า
หลังการตรวจค้นจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมได้แน่นอนแม้จะไม่ได้ตัวผู้ต้องหา
ก็จะมีคำตอบให้รัฐบาลและสังคมรับทราบข้อเท็จจริงอย่างไรก็ตามการไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะหลายคดีมีผู้ต้องหาหลบหนีและไม่สามารถจับกุมตัวได้
และดีเอสไอจะตรวจวัดพระธรรมกายทุกตารางนิ้วจนกว่าจะครบทั้งพื้นที่และจำเป็นต้องปิดวัดเพื่อคงพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งคสช.มาตรา
44ทั้งนี้ด้าน พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเหตุผล การใช้อำนาจตามมาตรา 44
กำหนดให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมว่า "
ทำเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปตรวจค้น
เพื่อติดตามตัวพระธัมมชโยเท่านั้น ส่วนพระธัมมชโย จะอยู่ภายในวัดหรือไม่
ไม่สามารถตอบได้ แต่การจับกุมเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายปกติ
พร้อมตั้งคำถามกลับไปยังพระที่อยู่ภายในวัด ถึงการปฏิบัติที่อาจไม่เหมาะสม
กรณีใช้ผ้าปิดหน้าออกมาเจรจากับเจ้าหน้าที่
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00
น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ เผยว่า
เมื่อช่วงค่ำได้รับรายงานเจอการกักตุนน้ำมันจำนวนมาก ภายในวัดพระธรรมกาย
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่อายัดไว้ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง
ทำการตรวจสอบว่าเป็นน้ำมันชนิดใด กักตุนไว้เพื่ออะไร
และมีการขออนุญาตหรือไม่ โดยมีรายงานว่า น้ำมันที่พบได้บรรจุในแทงก์ๆละ
20,000 ลิตร จำนวน 5-6 แทงก์ รวมกว่า 100,000 ลิตร อยู่บริเวณด้านหลังวัด
คาดว่าทางวัดกักตุนไว้เผื่อกรณีถูกตัดน้ำตัดไฟ
และใช้น้ำมันกับเครื่องปั่นไฟแทน.อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะยังคงมีการปฏิบัติการทางด้านการข่าวในการติดตามตัวพระธัมมชโยต่อไป
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลทางการข่าว
พร้อมฝากประชาชนหากพบเบาะแสของผู้ต้องหาก็สามารถแจ้งดีเอสไอโดยตรงผ่านสายด่วน
1202 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า
ส่วนผู้ปิดบังซ่อนเร้นพระธัมมชโย
หรือบุคคลที่ถูกออกหมายจับต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบด้วย
ขณะที่ผลการตรวจค้นทั้งหมดอธิบดีดีเอสไอจะเป็นผู้รายงานกับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมต่อไปสนับสนุนเนื้อหา