กระบี่อีกกี่ครั้ง ก็ไม่มีเบื่อ ล่องเรือดูวิถีประมง ชม sunset แช่ออนเซ็นภาคใต้

อ่าน 8,191

Day1

กระบี่ ใครๆก็ไปได้ แล้วก็ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ งั้นเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าตั๋วเที่ยวกระบี่กัน เพราะที่นี่มีทะเล แต่ก็ไม่ได้มีดีแค่ทะเลนาจา ยังมีหลายๆอย่างที่น่าสนใจอีกเยอะ หลายๆคนได้ยินแต่ อ่าวไร่เลย์ ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะทับ เกาะไก่ ถ้ำพระนาง แต่วันนี้เราจะไปดูอีกมุมนึงพร้อมกัน ลองไปสัมผัสเสน่ห์อีกมุมนึงในกระบี่ที่หลายๆคนอาจยังไม่เคยรู้จักและไม่เคยสัมผัส การใช้ชีวิตแบบวิถีชุมชน และสัมผัสกับธรรมชาติที่นี่ กระบี่

ออกเดินทางกันเลย ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังกระบี่ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 20 นาที เดินทางแป๊ปๆเราก็มาถึงสนามบินกระบี่

แอบตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ไปเที่ยวดำน้ำตามเกาะแบบที่เคยไป เริ่มจากนั่งรถเดินทางไปไม่ไกล ก็ถึงท่าขึ้นเรือ เพื่อขึ้นเรือหัวโทงไปเที่ยวที่เกาะกลาง ระหว่างทางนั้นก็จะได้เห็นวิถีชาวประมงออกเรือหาปลา หากุ้ง หาหอย บรรยากาศตื่นตาแบบที่ไม่คุ้นชินมาก่อน พี่ๆน้าๆชาวประมงก็ต่างทำมาหากินในช่วงเช้าๆเหมือนที่คนกรุงเทพก็กำลังขับรีบออกจากบ้านเพื่อไปทำงานตอกบัตร แต่ที่นี่ยังมีความสโลไลฟ์ใช้ชีวิตเป็นอยู่แบบไม่เร่งรีบเหมือนคนกรุงก็เท่านั้นเอง

ล่องเรือผ่านวิถีประมงไปเรื่อยๆ ก็มาถึงแลนด์มาร์คแห่งนี้ เขาขนาบ รู้มั้ยว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองกระบี่ก็ว่าได้ ที่เห็นตรงหน้าเป็นภูเขาสองลูกสูงตั้งเด่นขนาบแม่น้ำ ที่เขาขนาบน้ำนี้ยังมีประวัติศาสตร์ รวมถึงธรรมชาติสวยๆถ้าลงเรือและเข้าไปสัมผัสใกล้ๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ททท. สำนักงานกระบี่ กระบี่,พังงา ถ.อุตรกิจ อ.เมือง จ.กระบี่

ไม่ได้มีดีแค่นี้แน่ๆ นั่งเรือโทงไปอีกไม่ไกล เราก็แวะลงจุดหมายต่อไป ชุมชนเกาะกลาง หลายๆคนอาจไม่คิดว่าที่นี่จะมีโฮมสเตย์ น่ารักๆและดูเงียบสงบร่มเย็นอยู่ด้วย คิดถึงคอทเทจ ใครอยากหนีความวุ่นวายในเมืองกระบี่ จะหาโฮมเสตย์น่ารักน่าพัก ก็มีให้ได้สัมผัสที่เกาะกลาง

ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบธรรมชาติต้องมาที่นี่ค่ะ ดื่มเวลคัมดริ้งน้ำอัญชันมะนาว และขนมพื้นถิ่นกันเรียบร้อย ก็ออกไปตะลุยนั่งสามล้อเครื่องรับลม และแวะดูวิถีการใช้ชิวิตของคนชุมชนบ้านเกาะกลางกันเลย

มุ่งหน้าไปที่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตเรือหัวโทงแบบจำลอง มานั่งดูการสาธิตการต่อเรือหัวโทงจำลอง เรือหัวโทงที่ว่านี้มีประวัติความเป็นมาอยู่ว่า เรือชนิดนี้ใช้ในการออกทะเลหาปลารวมทั้งใช้ในการเดินเรือที่ค่อนข้างแม่นยำ เพราะเรือมีการทรงตัวดี ต่อมาชาวบ้านที่นี่ได้จำลองทำให้มีขนาดเล็กลง เพื่อจำหน่ายเป็นของฝาก ของที่ระลึกทำให้เกิดรายได้ในชุมชนนั่นเองค่ะ ออกจากชุมชนการทำเรือหัวโทง ไปมุ่งหน้าไปแหล่งผลิตผ้าบาเต๊ะแฮนด์เมด ดูสาธิตวิธีการทำผ้าบาติก และผ้าบาเต๊ะตั้งแต่ตอนแรก อย่างการหลอมขี้ผึ้งผสมเทียน การวาด หรือ ปั๊มลาย ระบายสี และย้อมสีให้ทั่วผืนผ้า ทำมาจากรุ่นสู่รุ่นจนทำเป็นรายได้ในแต่ละครัวเรือนเพื่อส่งออกตามร้านต่างๆและผลิตตามออเดอร์เลยล่ะ

แล้วก็ได้เวลาอาหาร เราแวะกันที่ร้าน ขนาบน้ำวิวซีฟู๊ดร้านติดริมน้ำบรรยากาศดีงาม ทานอาหารมื้อเที่ยงพร้อมรับลมเย็นๆ สุขไหนจะเท่าตอนนี้ อาหารทะเลวางเต็มโต๊ะตรงหน้า พร้อมเมนูหน้าตาดี หน้าตาน่ากินเอามากๆ แล้วเมื่อได้ลองชิมทุกเมนู บอกเลยว่า อร่อยมากกกกกค่ะ อาหารทะเลสดๆ น้ำจิ้มเผ็ดสะใจ ชั่วโมงนี้ฟินระดับพีคสุดล่ะ อร่อยแบบถ้าได้กลับมาที่กระบี่อีกจะพาแก๊งค์เพื่อนมาทานอีกแน่นอน

ได้เวลาออกเดินทางไปที่พักสำหรับคืนแรก ( Bulan Anda Baba Resort ) บุหลันอันดาบาบ๋ารีสอร์ท ที่ตั้ง บ้านแหลมสัก ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าที่นี่เหมาะที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามตามท้องเรื่องค่ะ นี่เดินมาบริเวณด้านหลังรีสอร์ทสวยมากค่ะ มาเก็บภาพทั้งเช้าและเย็นไปอวดเพื่อนๆ อัพโหลดลงไอจีรัวๆ สวยเลยล่ะ

ไม่ไกลจากตัวรีสอร์ท เราออกมาไหว้ศาลเจ้ากันค่ะ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินเล่นชมบ้านเก่า ของคนที่นี่ อ.แหลมสักกันค่ะเดินเล่นพักผ่อนทอดอารมณ์กันจนตะวันตกดิน

Day2

เช้าวันใหม่ ตื่นเช้าตรู่รับอากาศดีๆ เช้านี้ออกล่องเรือไปดูแสงแรกที่ผาเขาค้อม ไปดูแสงแรกของยามเช้ากับท้องฟ้าสีสวยๆนี้ที่กระบี่พร้อมกันค่ะ

ลมเย็นๆจากล่องเรือกระทบใบหน้าพร้อมชมท้องฟ้าสีสวยๆ อากาศยามเช้าช่างเย็นสบายจนรู้สึกหลงรักที่นี่จัง

ชาวบ้านเค้าพามาชมจุดไฮไลท์ของผาเขาค้อม นี่คือแสงแรก แสงจากพระอาทิตย์ลอดผ่านช่องหินงอกหินย้อย สวยงามมากเลยล่ะ ต้องได้มาเห็นกับตาจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันสวยมากกกกจริงๆนาจา

แวะพักบนหาดฉิ้งฉั้ง หาดที่เงียบๆมีแต่เรา นั่งกินข้าวที่ห่อมา แล้วหลับตานั่งดปลรับลม ฟังเสียงคลื่น เสียงทะเล เสียงนกร้อง บอกเลยว่า จุดนี้พีคระดับแปดอีกแล้ว แอบหลับไป 20 นาทีเชียวน้ะ ณ จุดนี้

ลงเรือต่อท่องทะเลกว้างไปเรื่อยๆ เพื่อไปดูภูเขาหิน และภาพเขียนสีโบราณลวดลายแปลกตาหลายๆคนอาจยังไม่เคยเห็นมาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งชาวบ้านที่นี่สันนิษฐานกล่าวกันมาช้านานว่า ว่ากันว่าในอดีตหลายพันปีมานั้น บริเวณนี้เคยเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่มาก่อนและมีมนุษย์ได้จารึกภาพเขียนสีบนผนังหินนี้เอาไว้

เที่ยวแหล่งชุมชนกันต่อค่ะ ว่าไปแล้วก็เพลินดีนะคะ ใช้ชิวิตล่องเรือช้าๆ เพื่อชมนั่นนี่นู่น แปลกตาไปอีกวิถี ไปสัมผัสวิถีชาวประมงกันต่อ หา ปลา กุ้ง กระชังฟาร์ม และนี่คือการทำสาหร่ายองุ่น ของคนในชุมชนค่ะ ชาวบ้านที่นี่เค้าปลูกองุ่นให้ได้เราเห็นกันกลางทะเลแบบนี้เลยล่ะ นี่คือพืชเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่อีกอาชีพนึงเลยก็ว่าได้

แล้วเราก็ล่องเรือไปกันต่อ สัมผัสความงามของทะเล ผ่านเกาะฝาแฝด เกาะเหล็กใน เพลินตาจริงๆแล้วจะหลงรักกระบี่อีกครั้งและอีกครั้งแน่ๆ ล่องเรือกแบบอิ่มหนำเบิกบานใจกันถ้วนหน้าแล้ว แวะกินข้าวคลุกกระปิของคนพื้นถิ่นสักหน่อย อร่อยเด็ดได้ใจจริงๆค่ะ หลายๆคนกินกัน2 จานเชียว นั่งกินรับลมแล้วไปปลูกกล้วยไม้พื้นถิ่น ในเขตอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ท้องถิ่นกันต่อก่อนกลับที่พักค่ะ

คืนสุดท้ายแล้วเราพักกันที่นี่ วารีรักษ์ รีสอร์ท แอนด์ สปา พักรีสอร์ทนี้จะได้ดื่มด่ำกับความเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการนวด หรือสปา และที่โดดเด่นก็คือ มีบ่อ ออนเซ็นซะด้วย เป็นออนเซ็นเมืองใต้ที่น่าประทับใจที่สุด เหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้วได้ออนเซ็นในบ่อร้อนๆมันเป็นอะไรที่ผ่อนคลายดีจริงๆค่ะ ช่วยได้มากบ่อที่นี่มีให้เลือกลงหลายบ่อค่ะ และระดับความร้อนของแต่ละบ่อก็แตกต่างกันไป เริ่มจากทั้งอุ่น ทั้งร้อนหลายระดับค่ะ ใครอยากลงแช่ร้อนระดับไหนก็สามารถแช่ได้ตามสบายเลย

Day3

วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงแล้ว เป็นทริปที่เหมือนจะมาหลายวันแต่เผลอแป๊ปเดียวเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะกำลังสนุกและเพลินกับกิจกรรมต่างๆก็เป็นได้ค่ะ มุ่งหน้าขึ้นรถไปที่ บ้านทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนมุสลิมบนเกาะลันตาใหญ่ เพื่อนๆจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตเรียบง่ายองชาวบ้านทุ่งหยีเพ็ง และที่นี่กำลังยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ เพื่อนๆที่มาเที่ยวกระบี่หากสนใจก็ลองแวะมาที่เกาะลันตาใหญ่ มาสัมผัสกับชีวิตอันแสนจะเรียบง่ายและมาสัมผัสกับชีวิตติดดิน พร้อมธรรมชาติสัมผัสกันค่ะ

ได้เวลามื้อเที่ยง เมนูในวันนี้ ส้มตำไข่เค็ม ยำหอยแครง และลาบไก่ รวมถึงผักสดนานาชนิด ได้ลองอาหารพื้นถิ่นบอกเลยว่าเจริญอาหารมากค่ะและก่อนจะปิดทริปนี้เราไปทิ้งท้ายด้วย การล่องเรือแจว ป่าชายเลนบ้านทุ่งหยีเพ็ง ก่อนกลับกรุงไปสูดควันมลพิษท่อไอเสีย ขอสูดอาหารดีๆธรรมชาติล้วนๆ ให้เต็มปอดก่อนกลับ ฟังเสียงนกเสียงไม้เพลินๆให้สบายใจ และเลาะล่องเรือแจวผ่านป่าไม้โกงกาง ชมวิว ที่ยังน่าจดจำ และธรรมชาติที่เงียบสงบน่าพักผ่อน ขอทิ้งตัวบนเรือลำนี้แป๊ป แล้วไว้ว่างๆหรือพักร้อนเราจะกลับมาเยือนกันใหม่ สำหรับทริปนี้ต้องกล่าวคำว่า บายยยค่ะ แล้วเราจะพบกันใหม่!!กระบี่

และถ้าเพื่อนๆอยากเที่ยวแบบเข้าถึงวิถีใกล้ชิดชาวชุมชน สัมผัสการที่ที่แตกต่างไปจากเดิมง่ายๆเลยค่ะ สามารถจองผ่านเว็บไซต์ของโลเคิลอไลค์ localalike ตัวช่วยที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกไม่ว่าจะเป็นการประสานงานและการจัดหารถรับส่งและไกด์ต่างประเทศให้ได้ด้วย แล้วเพื่อนๆลองไปใช้ชีวิตท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันดูค่ะ และไม่ได้มีแค่ที่นี่นะจ๊ะ ยังมีอีกในหลายภูมิภาคที่ localalike เค้าจะแนะนำ แล้วการท่องเที่ยวของคุณๆสะสนุกและสะดวกเข้าถึงวิถีชุมชนได้อย่างประทับใจเลยล่ะ



บทความแนะนำ


หนังสือคำให้การหมอซันฆ่าน้าต่อหน้าเด็กศักดิ์ชัยกายหมอดูปภากโรพระสุเทพแตงโมข่าวล่าสุดทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก