กทม.เปิดใช้สะพานไทย-เบลเยี่ยม 11 พ.ค.นี้ หลังซ่อมเสร็จเร็วกว่ากำหนด 22 วัน
วันที่ 9 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยและความมั่นคงแข็งแรงของสะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 4 ตัดถนนสาทร หรือ สะพานไทย-เบลเยี่ยม ภายหลังดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2560 ซึ่งกทม.ได้กำหนดแผนจัดซ่อมให้มีความแข็งแรงและปลอดภัย พร้อมทั้งเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด จากเดิมกำหนดเปิดใช้เป็นทางการวันที่ 15 พ.ค.2560 แต่จะเลื่อนการเปิดใช้เป็นวันที่ 11 พ.ค.2560 เพื่อลดปัญหาการจราจรบนถนนพระรามที่ 4 และพร้อมรองรับปริมาณรถในช่วงเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงสร้างของสะพานได้รับความเสียหายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ แต่กทม.ได้เร่งซ่อมแซมให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้เป็นการชั่วคราว เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน จากนั้นได้ปิดซ่อมเพื่อปรับปรุงโครงสร้างสะพานและส่วนที่ได้รับความเสียหายให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง โดยการเปลี่ยนคานเหล็กของสะพานทั้งฝั่งขาออกและเขาเข้า ซึ่งเริ่มดำเนินการในส่วนของฝั่งออกเข้ามุ่งคลองเตยตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. -14 เม.ย.2560 จากนั้นได้ปิดซ่อมสะพานฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าหัวลำโพง ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2560 จนแล้วเสร็จ เพื่อเป็นการบรรเทาและแก้ไขปัญหาจราจรช่วงเปิดเทอม
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า กทม.และบริษัทไออีทีแอลจำกัด ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมสะพานให้เปิดใช้งานได้ทั้ง 2 ฝั่ง ในวันที่ 11 พ.ค.2560 ซึ่งเร็วกว่ากำหนด 22 วัน โดยระหว่างการปิดซ่อมสะพานไทย-เบลเยี่ยม กทม.ได้ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง และได้รับการสนับสนุนการจัดการจราจรบริเวณดังกล่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ขับขี่ ตลอดจนกำชับให้สำนักการโยธา และสำนักงานเขต ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกทุกแห่ง และจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
"นอกจากนี้ได้กำชับ 50 สำนักงานเขต ไม่ให้นำสิ่งของมาไว้บริเวณใต้สะพานลอย รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เทศกิจประสานกระทรวงแรงงานกวดขันคนเร่ร่อนไม่ให้เข้ามานอนใต้สะพานลอย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวและความเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อไป"ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ขอบคุณที่มา: http://www.thaitribune.org/contents/detail/336?content_id=27341&rand=1494382944
