รักแท้! หนุ่มอาศัยในเล้าหมูร้าง ดูแลภรรยาป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง มากว่า 6 ปี

หนุ่มชาวสิงห์บุรี ดูเเลปรนนิบัติภรรยาที่ป่วย มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนเเรง มาเป็นเวลากว่า 6 ปี พบฐานะยากจนขัดสน อาศัยอยู่ในเล้าหมูร้างในที่ดินของญาติ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายซึ่งเป็นสามีได้ดูแลภรรยาที่ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นคนไข้ติดเตียง และมีฐานะยากจนมาก ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่พักที่ดัดแปลงมาจากเล้าหมู ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 82/3 หมู่ 3 ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี พบ นายยอดสน ยี่สุ่นทอง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นสามีกำลังดูแลภรรยาอายุ 25 ปี เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ร่างกายซีกซ้ายไม่มีความรู้สึกต้องนอนติดเตียงมากว่า 6 ปี

โดยมีนายยอดสนดูแลเช็ดตัว ทาแป้ง คอยพลิกตัว ทำให้ภรรยาไม่มีแผลกดทับที่ร่างกายตรงส่วนไหนเลย ทำให้ทีมสาธารณสุข รพ.สต.ท่าช้าง รพ.ท่าช้าง ญาติและชาวบ้านละแวกนั้นต่างชื่นชมนายยอดสน ที่ดูแลปรนนิบัติภรรยาด้วยความรักมาเป็นเวลานานโดยไม่ทอดทิ้งไปไหน

สอบถาม นายยอดสน ผู้เป็นสามีเล่าว่า ตนอยู่กินกับภรรยามาสิบกว่าปีแล้ว โดยเมื่อก่อนทำงานด้วยกันที่โรงงาน จ.สมุทรสาคร ต่อมาเมื่อ 6 ปีที่แล้วภรรยาเกิดอาการความดันสูงเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ตนจึงรีบพาไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นร่างกายซีกซ้ายของภรรยาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ต้องนอนติดเตียงตลอด

ก่อนตนไปทำงานก็จะเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ภรรยา ป้อนข้าว เปิดพัดลมให้ ทำความสะอาดที่นอน แล้วจึงไปทำงาน ช่วงพักกลางวันก็จะมาป้อนข้าวภรรยา เช็ดตัวให้ เนื่องจากภรรยาจะขับถ่ายแบบไม่รู้สึกตัวจนเลอะที่นอน แล้วจึงกลับไปทำงาน

พอตอนเย็นก็รีบกลับมาป้อนข้าว เช็ดตัว เปลี่ยนผ้า ทาแป้งให้ภรรยา ตนรักและสงสารภรรยามาก และตัดสินใจกลับมาอยู่ จ.สิงห์บุรี บ้านเกิดได้ 2 ปี มาอาศัยที่ดินของญาติอยู่และเอาเล้าหมู (ร้าง) มาเป็นที่พักอาศัย

ตนทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บขี้วัวใส่กระสอบขาย ใครจ้างทำงานอะไร ก็ทำหมด เคยเหนื่อย แต่ไม่ท้อ เพราะรักภรรยามาก ไม่เคยคิดจะทิ้งและจะดูแลตลอดไปจนกว่าชีวิตคนใดคนหนึ่งจะหาไม่ โดยในขณะสัมภาษณ์ ภรรยาได้มองนายยอดสนไปยิ้มไปตลอดเวลา

ด้าน นายวันชัย อุทาวงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ได้กล่าวว่า นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี (รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี) ได้มีนโยบายกับส่วนราชการทุกส่วนให้สำรวจคนไข้ติดเตียง หรือคนด้อยโอกาสในสังคมในพื้นที่ของตน เมื่อพบแล้วต้องให้การช่วยเหลือทันที

ตนและหน่วยราชการของ อ.ท่าช้าง ได้ทราบเรื่องของสองสามีภรรยานี้จากทางสื่อโซเชียล โดยเบื้องต้นนั้นผู้ป่วยนั้นเป็นคนนอกพื้นที่ ในบัตรประชาชนเดิมของ น.ส.ศิริญา นั้น เป็นคน จ.อุทัยธานี จึงได้ดำเนินการย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ จ.สิงห์บุรี เพื่อจะได้สิทธิ์ในการรักษาต่างๆ ของในพื้นที่

และสภาพที่อยู่ของผู้ป่วยนั้นเดิมเป็นเล้าหมู ทางทีมงานของเทศบาลตำบลถอนสมอ ได้มาปรับปรุงทำที่พักทำหลังคาทำฝ้าจากคอกหมูให้มีสภาพดีขึ้น ส่วนทางโรงพยาบาลท่าช้าง รพ.สต.ท่าช้าง คณะทีมแพทย์พยาบาลก็ได้มาดูแลตรวจอาการผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธาน อพม.ต.ถอนสมอ อำเภอท่าช้าง กาชาดจังหวัด ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง อาสาสมัครมูลนิธิฯ ได้นำสิ่งของบริจาคมาให้ และคอยดูแลให้ผู้ป่วยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายอุดร พาศิรายุทธ นายกเทศมนตรีตำบลถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทราบเรื่องของผู้ป่วยจากบุคคลในพื้นที่ ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ผู้ป่วยนั้นเดิมไม่ใช่คนใน จ.สิงห์บุรี แต่เมื่อมาอาศัยอยู่ในเขตเทศบาล ต.ถอนสมอแล้ว ทางเทศบาลฯ ก็ได้ดูแลแบบไม่เลือกปฏิบัติ

ครั้งแรกที่ไปพบเห็นนั้นพบว่า มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก จึงได้สั่งการให้รองนายกฯ ไปช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นก่อน และได้ให้ทีมงานเทศบาลถอนสมอไปปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น นำสิ่งของยังชีพที่ใช้ในชีวิตประจำวันไปมอบให้ และได้ประสานงานกับทางอำเภอท่าช้างเพื่อเปลี่ยนย้ายทะเบียนบ้านของผู้ป่วยมาอยู่ในเขตพื้นที่ ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เพื่อมีสิทธิ์ในด้านการรักษาพยาบาล การรับเบี้ยผู้พิการ ต่อไป