สถานที่ขอพรและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดัง

อ่าน 8,318

ขอเอาใจสำหรับที่ชอบทำบุญไหว้พระขอพรเสริมดวงชะตากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังที่มาแนะนำให้คุณๆ ได้ลองไปไหว้ขอพรสักการะสักครั้งในชีวิต

ซึ่งสถานที่ ที่มาแนะนำกันนั้นมีทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างประเทศที่ไม่ไกลจากไทยมากนักสำหรับคนที่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวก็ไม่ควรพลาดที่จะไปตามรอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้

ว่าแต่จะเป็นที่ไหนบ้าง แล้วแต่ละที่มีความโดดเด่นในด้านไหนบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร

"วัดพระแก้ว"เป็นวัดประจำคู้บ้านคู่เมืองของไทยเรา ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวก็จะต้องไปกราบไหว้หรือเดินชมความงามของสถาปัตยกรรมภายในวัดพระแก้วนี้กันทุกคน

วัดพระแก้วเดิมทีเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา จนล้นเกล้ารัชกาลที่ 1มีพระราชประสงค์ให้อัญเชิญของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตที่ศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้

วัดแห่งนี้กล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์และกึ่งใจกลางแทนดาวจันทร์ คนที่มากราบไหว้ขอพรส่วนใหญ่จะขอในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรุ่งเรือง มีสติปัญญา ชนะอุปสรรค มีความก้าวหน้าในชีวิตการงาน หรือชีวิตสุขสบายมากด้วยทรัพย์สินเงินทองไม่ขาดมือนั้นเอง

โดยจะต้องไปกราบไหว้ที่องค์พระแก้วมรกตในโบสถ์ ซึ่งการกราบไหว้นั้นมีพิธีกรรม คือ การกราบบูชาพระรัตนตรัย ด้วยการตั้งนะโมสามจบและสวด อะระหังสัมมา สัมพุทโธ ต่อจนจบด้วยสมาธิอันแน่วแน่ด้วยความศรัทธา ตามด้วยการสวดคาถามบูชาดวงชะตาแล้วอธิษฐานขอพระในสิ่งที่ต้องการ...

ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร

"ศาลหลักเมือง"คือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของหลักเมือง ซึ่งตามธรรมเนียมพิธีของศาสนาพราหมณ์กล่าวว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น

ศาลหลักเมืองในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำจากไม้มงคล เช่น ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ในลักษณะเสา ปลายยอดเป็นดอกบัวตูม หรือหน้าเทวดา หรืออาจเป็นหลักหินโบราณ ใบเสมาโบราณ ที่พบในพื้นที่นั้นๆ

โดยที่ศาลหลักเมืองนั้นเป็นสถานที่รองลงมาจากวัดพระแก้วที่เราได้กล่าวไปข้างต้น (เพราะสถานที่อยู่ไม่ไกลจากกันมานัก ใครที่ไปวัดพระแก้วแล้วก็มักจะมาที่ศาลหลักเมืองด้วยเช่นกัน)

การมากราบไหว้ที่ศาลหลักเมืองนี้ เป็นเหมือนการมาฝากดวงชะตาถวายกับเจ้าพ่อหลักเมือง ถือเป็นการนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตในแต่ละปี ถ้ามาช่วงต้นปีหรือปีใหม่จะยิ่งดีเหมือนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้ชีวิตที่จะดำเนินต่อไปในปีนั้นรุ่งเรืองไร้อุปสรรคไปตลอดทั้งปี

ซึ่งการไปสักการะที่ศาลหลักเมืองมีเคล็ดลับว่า ต้องไปไหว้"เทพารักษ์ทั้ง 5"คือพระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี , เจ้าพ่อเจตคุปต์ , เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี"

และไหว้เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย ถึงเป็นอันเสร็จสมบรูณ์เพื่อเตรียมพร้อมในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปีนั่นเอง

หลวงพ่อโสธรวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา

สถานที่ต่อไปออกมาชานเมืองกันบ้างไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก มุ่งตรงสู่วัดโสธรวรารามวรวิหารเพื่อกราบไหว้"หลวงพ่อโสธร"วัดขึ้นชื่อของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่วัดนี้มีชื่อเสียงในการมากราบไหว้ขอพรให้ชีวิตรุ่งเรือง เสริมสิริมงคลแก่ชีวิตในทุกๆ ด้านรวมไปถึงหากใครที่มีเรื่องเดือนร้อนใจต้องการที่พึ่งทางใจ ก็จะมาทำการบนขอให้หลวงพ่อช่วยในสิ่งที่ต้องการ

โดยส่วนใหญ่จากประสบการณ์จะสำเร็จเกือบทุกราย จึงทำให้ชาวบ้านประชาชนจากทั่งทุกมุมของประเทศแห่กันมาไหว้ขอพรสักการะองค์หลวงพ่อโสธรกันตลอดไม่ขาดสาย

เคล็ดลับอีกอย่างสำหรับการขอพรโดยการบน คือ ถ้าได้สิ่งที่ขอดังที่หวังไว้แล้วคนส่วนใหญ่จะนำไข่ต้มมาแก้บน ตลอดจนถวายนางละครจากนางรำที่ทางวัดได้มีจัดเตรียมไว้ให้

เพราะความศรัทธาที่มากมายของเหล่าคนทุกหนแห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างโบสถ์ใหม่ที่ใหญ่และสวยงามเพื่อรองรับการมาของผู้ที่มีจิตศรัทธาอยากมากราบไหว้หลวงพ่อได้สะดวกสบายขึ้น แต่ในส่วนโบสถ์เก่าก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมเปิดให้เข้าไปกราบไหว้ขอพรได้ปกติ ใครสะดวกตรงบริเวณไหนก็เชิญเข้าไปกราบไหว้ได้ตามจิตศรัทธา

พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหารจังหวัดนครปฐม

มาต่อกันที่ การกราบไหว้"องค์พระปฐมเจดีย์"ถือเป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก เพราะที่แห่งนี้เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน และที่สำคัญเลยนั่นก็คือที่แห่งนี้เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้

ส่งผลให้ที่องค์พระเจดีย์มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ตามความเชื่อ หากใครที่มีโอกาสไปไหว้ขอพรที่นี่ แล้วอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็มักจะได้รับสิ่งนั้นสมดังปรารถนาในทุกประการ

ไหวพระขอพรกับสถานที่ศักดิ์ขึ้นชื่อในประเทศกันไปแล้วขอพาชาวสนุก!ดูดวงบินลัดฟ้าไปประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยกันบ้าง เริ่มกันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเรา นั่นคือ"ประเทศพม่า"

ที่นี่เป็นประเทศที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ขึ้นชื่อที่กำลังเป็นที่สนใจของต่างชาติเป็นอย่างมากหนึ่งในนั้น คือ คนไทยเรานี่เองที่ถึงขนาดว่ามีจัดเป็นกรุ๊ปทัวร์ทำบุญไหว้พระขอพรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในพม่ากันเลยทีเดียว

แต่สำหรับวันนี้เราจะขอแนะนำกันเฉพาะที่เด็ดและคิดว่าถ้าคุณมีโอกาสไปพม่าควรจะไปไหว้ขอพรสักครั้ง...


พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า

หากใครที่มาที่ประเทศพม่า แน่นอนว่า ต้องมาไหว้พระขอพรที่"พระมหาเจดีย์ชเวดากองแห่งเมืองย่างกุ้ง"เพราะที่นี่เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า (คล้ายกับวัดพระแก้วของไทยเรา)

ที่นี่เป็นสถานบรรจุพระเกศาธาตุ 8 เส้น ที่ว่ากันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล ชั้นบนๆหุ้มด้วยทองคำแท้ ดังนั้นที่นี่จึงมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าหาได้มาสักการะขอพรก็จะได้สำเร็จสมหวังดังใจปอง

และแน่นอนเมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วนอกจากจะไหว้ขอพรกับพระมหาเจดีย์แล้ว ก็ต้องไม่ลืมมาไหว้ขอพรกับ"เทพทันใจ"ซึ่งเป็นเทพที่ประทานพรได้ทันใจสมชื่อ โดยส่วนใหญ่คนที่มาไหว้ที่นี่

เชื่อกันว่าเทพทันใจ (นัตโบโบยี)เป็นเทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากว่าไหว้ขอพรอะไรไว้ก็จะได้สมดังใจปรารถนาทุกประการแบบทันใจกันไปเลย

จะเห็นจากคนดัง ดารา นักแสดงของไทยเราก็นิยมไปขอพรที่นี่กันมากมาย ใครมีโอกาสลองไปสักครั้งจะได้เสริมดวงให้ชีวิตราบรื่นในทุกๆ ด้าน

จากประเทศพม่าขยับออกมาไกลอีกนิดที่ฮ่องกงกันบ้าง ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งของใครหลายคนแล้ว แต่ใครจะรู้บ้างว่าในความอู้ฟู่เต็มที่ไปด้วยความวุ่นว่าย ก็ยังคงมีสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่...ถ้าอยากรู้ตามไปดูกัน

วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่อ่าวรีพัลส์ เบย์ (Repulse Bay) ฮ่องกง

ที่นี่เป็นสถานที่โด่งดังในเรื่องการมาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครที่มีโอกาสมาที่ฮ่องกงพลาดไม่ได้กับการมาขอพรในสถานที่แห่งนี้ เพราะมาที่นี่สามารถขอพรได้กับเทพหลายองค์เป็นเหมือนที่รวมของเทพ เริ่มกันที่

"ไหว้ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม"ด้วยการเดินบนวงกลม (ตรงจุดที่ไหวขอพร) เพื่อนำสิ่งไม่ดีออกไป และจากนั้นก็ไปขอพรจาก"เทพไฉ่ซิงเอี้ย"เพื่อให้ท่านประทานโชคลาภ ความร่ำรวย มาให้

ส่วนคนทีอยากมีลูก ให้ลูบที่ท้องพระ ลูบด้านขวาขอลูกชาย ด้านซ้ายขอลูกสาว ต่อกันด้วยการไหว้"เจ้าแม่ทับทิม"เพื่อให้คุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง รวมไปถึงเรื่องธุรกิจค้าขาย

และสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ คือ"เดินข้ามสะพานต่ออายุ"เชื่อกันว่าทุกครั้งที่ข้าม อายุจะยืนขึ้นอีก 3 วัน ส่วนใครที่อยากสมหวังในความรักก็สามารถมาขอพรจาก"เทพแห่งความรัก"ได้ที่นี่เช่นกัน เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้พรกลับไปครบสมบูรณ์กันเลย

ข้ามกันไปไกลหน่อยที่ประเทศญี่ปุ่นประเทศที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณเก่าแก่หลายที่ โดยมีมาแนะนำกันสองที่ ที่หากว่าคุณมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะต้องแวะเวียนไปให้ได้ เริ่มกันที่

วัด Kotoku-in พระพุทธรูปใหญ่ คามาคุระ (Kamakura Daibutsu)

พระองค์นี้เป็นที่คุ้นตากันดีโดยเฉพาะตามาบริษัททัวร์ญี่ปุ่นรวมไปถึงตามหนังสือคู่มือท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในนามDaibutsuซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า?พระพุทธองค์ใหญ่?

ซึ่งที่วัดนี้โด่งดังมาจากข้อความสัจธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า?ความดีเท่านั้นที่คงทน?เปรียบได้กับพระพุทธรูปใหญ่คามาคูระไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ไม่ว่าจะโดนพายุ สงคราม ที่ร้ายแรงขนาดไหน องค์พระก็ยังคงประดิษฐานอยู่ที่เดิม

จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาจากคนญี่ปุ่นและรมไปถึงชาวต่างชาติที่ไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็ต่างให้ความศรัทธาเป็นอย่างมากเช่นกัน

จุดสำคัญที่ทำให้พระพุทธรูปใหญ่คามาคูระนั้นโด่งดังและมีคนนับถือและศรัทธามากมายขนาดนี้ ก็เพราะการสร้างของพระพุทธรูปใหญ่มาจากเงินบริจาคโดยพระสงฆ์ และประชาชนที่ศรัทธา โดยเวลาล่วงเลยไปกว่า 750 ปีด้วยแรงศรัทธากับความเชื่อต่างๆ ทำให้คนญี่ปุ่นรวมถึงผู้คนจากทั่วโลกมาแสดงความเคารพต่อพระพุทธรูปใหญ่ของคามาคุระองค์นี้

และสถานที่สุดท้ายก็เป็นที่ประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกันซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นอีกที่ นั่นคือ

วัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่โดดเด่นด้วยโคมแดงยักษ์ขนาดใหญ่ใหญ่

วัดอาซากุสะคันนง (Asakusa Kannon) หรือวัดเซ็นโซจิตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ของประเทศญี่ปุ่น วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในของญี่ปุ่น สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.628-645

จุดเด่นของวัดอาซากุสะ คือโคมแดงขนาดใหญ่มหึมาที่ตั้งอยู่บริเวณประตูคามินาริมง ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลรักษาประตู ได้แก่ฟูจิน เทพเจ้าแห่งสายลม และ ไรจิน เทพเจ้าแห่งอสุนีบาต

ภายในวัดอาซากุสะจะมีการสักการะ"เทพเจ้าคันนง"โดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมี "กระถางธูปขนาดใหญ่"ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ใดได้รับควันธูปจากกระถางธูปนี้ จะโชคดีมีสุข นอกจากนี้ยังมีการทำบุญไหว้พระด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซีตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นอีกด้วย

และทั้งหมดนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เรามานำแนะให้คุณๆ ได้ทราบกัน ใครสะดวกที่ไหนก็หาเวลาหาโอกาสไปไหว้ขอพรกันได้

ยิ่งในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะถือเอาฤกษ์ดีเป็นการเสริมดวง เพิ่มสิริมงคลให้แก่ต้นเองเพื่อจะได้มีชีวิตที่ราบรื่นไร้อุปสรรคไปตลอดทั้งปีกันเลย

...ส่วนใครที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนที่ไปมาแล้วอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนคนอื่นได้รู้ก็เข้ามาพูดคุยคอมเมนท์กันได้เลยค่ะ



บทความแนะนำ


ดูดวงดวงประเทศไทย2558ChapterInsidious:สอนแต่งหน้าแต่งหน้าภาพยนตร์ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก