เหล็กไหล อานุภาพและความเชื่อ
เหล็กไหล เชื่อกันว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในประเทศมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า บีอซีรีเละ
มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด
โดยชนิดที่เป็นทีความนิยมหามาสะสมกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดจะฝังตัวอยู่ใน
ถ้ำ มีสีดำคล้ายนิล สามารถลนไฟให้ยืดออกได้ มีความเชื่อเพิ่มเติมกันอีกว่า
การจะนำเอาเหล็กไหลไป
ใช้นั้นจะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหล
จากนั้นใช้ไฟลนเพื่อให้เหล็กไหลยืดตัวออกมากินน้ำผึงพร้อมกับเล่นไฟไปด้วย
ลนไฟเหล็กไฟลเอาไว้จนกระทั่งมีขนาดบางเท่าเส้นด้านถึงจะตัดให้ขาดออกจากกัน
ได้
การเดินทางไปนำตัดเหล็กไหลออกมานั้น ว่าก็ว่าคนธรรมดาไม่สามารถทำได้
เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่าเจ้าเขา พญานาค หรือยักษ์คอยปกปักรักษาอยู่
และพร้อมจะเข้าทำร้านผู้ที่เข้าไปเอาได้ทุกเมื่อ หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนดี
มีบุญ หรือมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้ามากพอ อีกทั้ง
ตัวเหล็กไหลก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่จะเข้าไปตัดได้ด้วย จากเรื่องเล่าที่ว่า เคยมีคนเดินทางเข้าไปตัดเหล็กไหลโดยเอามือไปสัมผัสกับเหล็กไหลโดยตรง จากนั้นเกิดอาการคล้ายกับถูกฟ้าผ่า หรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเข้า เป็นเรื่องที่ใครก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าจริง หรือเท็จอย่างไรอานุภาพของเหล็กไหล
ใครต่อใครต่างก็บอกว่าอานุภาพมีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ส่วนใหญ่มักจะฝังเอาไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครอง
ไม่มีอะไรสามารถทำร้ายบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นมีด ปืน ระเบิด
หรือแม้กระทั่งดินปืนทุกชนิดก็ไม่สามารถจถดติดได้ในบริเวณที่มีเหล็กไหลอยู่
อีกทั้งตามความเชื่อโบราณยังได้กล่าวอีกว่า เหล็กไหล
สามารถแบ่งออกได้เป็นสามระดับ ดังนี้- ระดับแรก เหล็กไหล มีลักษณะแวววาว
ส่วนที่ถูกไฟลนสามารถยืดได้ นับว่าเป็นส่วนที่มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุด อาทิ
เหล็กไหลปีกแมลงทับหรือเหล็กไหลโกฐปี เหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว
เหล็กไหลเพชรดำ เหล็กไหลท้องปลาไหล
- ระดับสอง รังเหล็กไหล
มีลักษณะแวววาวรองจากตัวเหล็กไหล ไม่สามารถลนไฟให้ยืดออกได้
เป็นส่วนที่ห่อหุ่มตัวเหล็กไหลเอาไว้
เป็นฐานรองเหล็กไหลที่แข็งและแน่นคอยยึดติดกับผนังถ้ำ อาทิ โคตรเหล็กไหล
แร่เกาะล้าน แร่เม็ดมะขาม เหล็กไหลทรหด
- ระดับสาม ขี้เหล็กไหล มีลักษณะคล้ายกับน้ำตาเทียน
มีสีดำด้าน แข็ง แต่สามารถทุบให้แตกได้ง่าย
เกิดจากการที่เหล็กไหลเคลื่อนผ่านทางนั้นแล้วเกิดเป็นขี้เหล็กไหล
ไม่มีฤทธิ์ใดๆ
ในทางวิทยาศาสตร์อาจกล่าวได้ว่า เหล็กไหล คือ โลหะ
หรือวัสดุอื่นใดที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น
อุกกาบาตจากนอกโลก ซิลิเกตจากใต้โลก
และวัตถุที่มนุษย์สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ เช่น ปรอท แกลเลียม
โดยสามารถหลอมเหลวได้ในอุณหภูมิห้อง หรืออาจะเป็นโลหะผสมอื่นๆ
สีสันของเหล็กไหลมีลักษณะเป็นสีรุ้งเมื่อตกกระทบกับแสงแดด หรือแสงไฟ
เกิดจากการแทรกสอดในฟิล์มบาง (Thin-Film Interference)
ที่เป็นการแทรกสอดของแสงที่สะท้อนออกมาจากเนื้อวัตถุพิธีการตัดเหล็กไหล
เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล
ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้จะมีความแตกต่างกันไปตามบุรพาจารย์ผู้มีวิชาความรู้เป็น
ผู้กำหนดเฉพาะส่วนสำคัญในการตัดเหล็กไหล
ผู้ที่สามารถทำพิธีตัดเหล็กไหลได้จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม ประพฤติตนดี
ผฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตใจที่ละโมบ
ต้องมีการขออนุญาตจากเทพผู้ดูแลรักษาเสียก่อน
เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงค่อยทำพิธีตัดเอา
มิฉะนั้นหากเราฝ่าฝืนด้วยกำลังหมายแย่งชิงเอาโดยพละการ
มีความถือดีในพระเวทย์ ก็อาจทำให้มีเพทภัยถึงแก่ชีวิต
หรือเกิดความขัดแย้งในหมู่คณะถึงขั้นที่ว่าวิบัติได้ด้วยฤทธิ์ของเทพผู้
รักษาเหล็กไหลนั่นเองถึงแม้ว่าในสมัยนี้คนรุ่นใหม่ๆ
จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพิธีกรรมการตัดเหล็กไหลเป็นอย่างไรและมี
กรรมวิธีที่แน่นอนอย่างไรบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความเชื่อของคนรุ่นก่อนๆ
ที่เราควรจะฟังหูไว้หู ไม่ควรลบหลู่ ควรฟังโดยตัดสินให้อยู่บนหลักของเหตุผล
ที่สำคัญไม่ว่าเราจะทำกิจสิ่งใดก็ตาม
ควรปฏิบัติให้ดำรงอยู่บนความดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่กระทำให้ผู้อื่น
หรือคนรอบข้างเดือดร้อน เท่านี้ภัยใดๆ
ก็ไม่สามารถเข้ามาทำอันตรายต่อเราได้อย่างแน่นอนข้อมูลเพิ่มเติม: Wikipedia.org, Siamfishing.com