"กินเจไม่ได้บุญอย่างที่คิด?กินเนื้อก็ไม่บาปอย่างที่เข้าใจ"!! สมเด็จพระญาณสังวรฯ

อ่าน 2,617

การกินเจ (ตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์) จริงๆไม่ได้บุญอธิบาย คือ เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จินตนาการ) ว่า หมูจะไม่ถูกฆ่า เปรียบได้กับเรานั่งอยู่บ้านเฉยๆแล้วคิด(จินตนาการ) ว่า เราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มี ไม่เกิด เพราะเรา นึกๆคิดๆไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง ถ้าอยากได้บุญ เราต้องช่วยชีวิตสัตว์ มี ๒ ข้อ คือ๑.ช่วยชีวิตมันโดยการไถ่ชีวิต ซื้อสัตว์ที่กำลังถูกฆ่านำมาปล่อย๒.เมตตาสัตว์ไม่ทำร้ายมัน อย่างนี้เป็นบุญแต่การกินเจ บุญไม่เกิด เพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง(ช่วยชีวิตสัตว์) เป็นเพียงแต่คิดไปเองพระเทวทัตเคย มาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์พระพุทธเจ้าปฏิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า๑. เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น๒. พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย๓. อนุญาตในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน๔. อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมากการรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่ ?การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรงเมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลยการกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่ ?การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อปาณาติบาต หรือไม่ ศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า๕. เตนมรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้นเมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตายมีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า"นตฺถิปาปํอกุพฺพโต" แปลได้ความว่า "บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ"การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกัน เพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆ ไส้เดือนตายได้ ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลยหลวงปู่แหวนท่านบอกว่า "ไอ้วัวควายกินหญ้าอยู่ตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว"จากเพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่นการกินเจ ไม่ใช่การทำบุญ การกินเนื้อสัตว์ ไม่ใช่การทำบาป คำสอนที่ลึกซึ้ง..อยากให้ลองอ่านกันดู



บทความแนะนำ


เสื้อเสื้อยืดมหาวิทยาลัยสอนแต่งหน้าแต่งหน้าภาพยนตร์ละติจูดที่มหาวิทยาลัยทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก