อยากเปลี่ยนชะตาชีวิต มีโชคใหญ่ ต้องเข้าใจที่มาเสียก่อน
ธรรมะที่จะกล่าวในวันนี้ เป็นธรรมะที่จะแก้ปัญหาในปัจจุบัน การที่จะทำให้ตนเองมีโชคลาภนั้น แบบให้มาทันการณ์ทันเวลาที่ต้องการ ก่อน
อื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า โชคลาภที่ได้นั้นจะต้องมาจากเหตุเสียก่อน
เพราะผลนั้นจะออกมาอย่างไรต้องมีเหตุ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพ้อพกแต่อย่างใดถ้าเราเคยหว่านอะไรต้องได้ผลตามนั้นเสมอ ปลูกข้าวต้องได้ข้าว ปลูกกล้วยต้องได้กล้วย ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ไม่มีการสลับผลลัพธ์กันแน่นอน
เรื่องนี้เป็นกฎแห่งกรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้ตั้งขึ้นมาเอง
เป็นกฎธรรมชาติกฎหนึ่ง
ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบขึ้นมาและนำมาสั่งสอนให้เหล่าสรรพสัตว์ได้ทราบที่มา
ทั้งหมดในชีวิต
แต่การที่ผลนั้นจะเกิดผลดีแค่ไหนนั้นอยู่ที่เราดูแล รักษาดูแลอย่างไร
ตั้งใจ มีเจตนาที่ดี มีปัจจัยด้วยเช่นกันแล้วโชคลาภ
โชคใหญ่ที่จะพลิกชีวิตคนนั้น จะมาได้อย่างไรกัน
ลองพิจารณาดูก่อนเราจะได้เข้าใจทั้งหมด คำว่า โชค
นั้นจริงๆ แล้วเป็นคำกลางๆ ในความหมายที่แท้จริงครอบคลุมไปหลายเรื่อง
แต่คนไทยนั้นพอพูดถึงโชคมักจะหมายถึงสิ่งดีๆ เสมอ ซึ่งในความจริงหมายถึง
สิ่งที่ได้มาที่ทำให้คนที่ได้รับนั้นมีความสุขมากขึ้นหรือทุกข์มากขึ้นอยู่
ที่ว่าโชคนั้นจะอยู่ในฝั่งไหน ฝั่งดีหรือฝั่งร้ายมาจากกรรมดีหรือกรรมไม่ดีแต่ที่สำคัญไม่ว่าสิ่งที่เข้ามาในชีวิตนั้นจะเป็นวัตถุ เงินทอง โอกาสต่างๆ ต้องมาจากการลงมือทำทั้งนั้น มีคนไปถามว่า? โชค? หมายถึงอะไร กับพระสงฆ์ท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในการเทศน์ ที่นำคนสู่แสงสว่างแห่งชีวิต ท่านตอบว่า โชคของอาตมาคือ จุดบรรจบกันระหว่างความพร้อมและโอกาส ซึ่งท่านเสริมให้ชัดขึ้นในเวลาต่อมาโดยเฉลยว่า ท่านเตรียมความพร้อมมาเป็นเวลา 6-7 ปี เมื่อโอกาสมาท่านก็พร้อมที่จะรับโชคนั้น
โชคดีในชีวิตนั้นต้องสร้างขึ้นเองด้วยมือสองข้างมาจากการทำงานหนัก
และแสวงหาโอกาส แสวงหาโชคอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ได้นั่งรอให้โชควิ่งเข้ามาหา
แต่เขาวิ่งไปหาโชคหาโอกาสดีๆ ในชีวิตทุกวัน
เศรษฐีส่วนใหญ่มักจะมองเห็นเป้าหมายของตัวเองว่า ?อยากจะทำอะไร? เราต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ความร่ำรวย ที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ได้เกิดจากความบังเอิญโชคและวาสนา นั้นก็คือ
บุญทำกรรมแต่งที่เราทำมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน คำว่า กรรม
ก็คือการกระทำของเรานั่นเอง โชคหรือบุญวาสนา
ย่อมมาจากการกระทำของเราในอดีตและปัจจุบัน คงเคยได้ยินว่า ?วาสนาไม่ถึง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จหรือไม่ได้ตามที่หวัง?
ซึ่งจริงๆ แล้วคำว่าวาสนาไม่ถึงก็คือ บุญไม่ถึงหรือมีบุญไม่พอนั้นเอง
แต่ถ้าบุญนั้นมีมากพอหรือบุญถึงเสียอย่าง
แม้แต่ฟ้าก็ยังมาขวางกั้นไม่ได้เลย?โชคดี?
นั้นก็เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งสิ้นไม่ได้มาแบบลอยๆ
หรือบังเอิญโชคดีแต่ต้องมาจากความเก่ง ประสบการณ์ มีฝีมือและมีโอกาสได้ทำ
คนที่ได้เลื่อนขั้นได้ดีจากการทำงานอย่าไปดูถูกตัวเองว่ามาจากการเคลื่อนที่
ของดาวบนฟากฟ้า โชคมาจากมือตนเองทั้งนั้นที่ทำให้เกิดโชค
เพราะตนเองมีผลงานดี มีความขยันหมั่นเพียร มีทิศทางในการดำรงชีวิตและการทำงานที่ถูกต้อง ถูกธรรมหรือแม้แต่คนที่ได้รับการส่งเสริมด้วยวิธีพิเศษ
อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรที่มาจากการกระทำมาก่อนเช่นกัน มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
มีความกตัญญู มีคนหนุนนำซึ่งอาจจะมาจากเคยมีบุญร่วมกันมา
หรือบางกรณีคนที่สนับสนุนนั้นอาจจะต้องมาชดใช้กรรมให้เรา
ครูบาอาจารย์ท่านเน้นมากว่า การสร้างโชคให้ตัวเองนั้นที่รวดเร็วทัน
ใจนั้นการสร้างบุญใหญ่ที่เป็นกรรมหนักฝ่ายดีบ่อยครั้ง ตรงเป้า
ผลบุญนั้นอาจจะให้โชคใหญ่ได้ทันการณ์ ทันเวลาที่เราต้องการได้ส่วน ?โชคร้าย? ก็เช่นกันต้องมาจากการกระทำทั้งนั้น ส่วนมากคนที่ยังไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมดี ถ้าโชคร้ายมาเยือนก็จะไปเพ่งโทษมาลงที่ "กรรมเก่า"
เรียกว่า ถ้าตนเองมีเรื่องร้ายๆ มีเคราะห์อะไรก็ตาม
ส่วนมากจะไม่ค่อยโทษตัวเองแต่ไปโยนโทษนั้นให้กรรมเก่า
เจ้ากรรมนายเวรเสียก่อน เพราะมันทั้งง่ายดีและแสนจะมักง่ายสิ้นดี ทั้งๆ
ในบางกรณีเจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ได้ทำไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ตัวการสำคัญที่ส่งผลกับสรรพสัตว์ทั้งปวง
เป็นตัวกำหนดชะตากรรมชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเลวร้ายหรือดีแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับกรรม หรือการกระทำทั้งสิ้นโดยมีกฏแห่งกรรมควบคุมอยู่
ที่เรียกว่า "กรรมลิขิต"ชีวิตของทุกคนที่พบโชคไม่ว่าจะโชคดีหรือโชคร้ายทั้งหลายมาจากกรรม
อาจจะเป็นกรรมเก่าก็ได้ หรือกรรมใหม่ที่เราที่ในชาติปัจจุบันนี้ก็ได้
หรือแม้แต่กรรมเก่าผสมกับกรรมใหม่ ที่ทำให้เร่งเรื่องราวให้เกิดขึ้น คือ
มีทั้งเหตุทั้งปัจจัยพร้อมสรรพ ผลนั้นจึงเกิดขึ้นมา
หากกินเหล้าเมายาจนเกือบรุ่งเช้า อดหลับอดนอนร่างกายอ่อนเพลีย
ตาใกล้จะปิดจะหลับมิหลับแหล
สมองมืนงงเพราะฤทธิ์เหล้าไปกดประสาททำให้ตัดสินใจอะไรก็เชื่องช้า
จากสติที่มีเต็มร้อยก็เหลือเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์
ขับรถออกมาจากร้านเหล้าไปชนคนอื่นเขา ต้องเสียเงิน เสียทอง
หรือติดคุกหรือแม้แต่ตนเองต้องตายไปแบบไม่น่าจะตายหากเป็นผู้มีนิสัยไม่ดีติดตัวมาแต่เกิด โลภโมโทสัน
ถือว่าเป็นกรรมเก่าที่ส่งมาเกิดหรือแต่งให้มาเกิดในชาตินี้
แถมยังได้รับกรรมสนับสนุนคือได้รับการเลี้ยงดูที่ผิด
ถูกสอนจนทำให้ไม่มีความอดทน อดกลั้น ทำอะไรก็ทิ้งๆ ขว้างๆ เห็นแก่ได้
เห็นแก่ตัวซึ่งถือว่าเป็นกรรมใหม่ในชาตินี้
เมื่อมารวมกันเมื่อเชื้อไฟที่มีอยู่แล้ว
พอมาเจอไม้ขีดไฟหรือประกายไฟหรือกรรมใหม่ที่ทำซ้ำเข้าไปอีก
มันจึงลุกพรึ่บติดเป็นไฟได้ง่ายดาย ที่ทำลายล้างทุกอย่าง
จนกลายเป็นผู้ไม่มีทรัพย์ ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี
ไม่มีเงินที่จะพอจุนเจือช่วยเหลือตัวเอง มีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด
ไร้ซึ่งเครดิตไม่มีใครคบหาสมาคมหรือให้ความช่วยเหลือ จึงชอบพูดว่า
ชีวิตนี้อาภัพ มีแต่เรื่องร้ายๆ หรือโชคร้ายอยู่เสมอเพราะเป็นผู้ประมาทในกรรม ไม่เชื่อในคำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จึงสร้างกรรมชั่วไม่หยุดหย่อน
ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชอบทำร้ายทำลายเบียดเบียนผู้อื่น
จึงต้องเป็นผู้ทุกข์ทรมานกับโรคร้ายต่างๆ นานาอายุสั้น โชคร้ายเหล่านี้
ไม่ใช่มาจากเหตุการณ์เคลื่อนของดวงดาว ไม่ได้มาจากพระเจ้าลิขิตบงการ
หรือใครหน้าไหนทั้งนั้น
ตนเองนั่นแหละเป็นผู้สร้างความโชคร้ายนี้ขึ้นเองด้วยการกระทำสำหรับ "โชคลาภ" หรือเราอาจจะเรียกอีกอย่างว่า ?ลาภลอย?
ที่เกือบแทบทุกคนคิดว่าเป็นสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายๆ ไม่ต้องลงมือ
หรือออกแรงทำอะไรมากก็ได้ ซึ่งจริงๆ
แล้วหากสืบต้นตอย้อนกลับไปก็จะรู้แบบเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ
หรืออะไรก็ตาม ต้องมีที่มาและที่ไปทั้งนั้น
โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ต้องมีเหตุ
มีปัจจัยช่วยทำให้เกิดขึ้นเสมอ การที่จะมีโชคลาภ ตัวเองพบแต่ความโชคดีนั้น
ครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกว่า
ต้องเป็นผู้มีกรรมดีมาส่งผลมากในเวลานั้นเท่านั้นและในขณะที่กรรมไม่ดีส่งผล
ได้น้อย ทำไมครูบาอาจารย์ท่านจึงกล่าวเช่นนี้
เป็นเพราะในทุกวินาทีของชีวิตคนเรานั้นมีทั้งสุขและทุกข์ผสมกันอยู่
ถ้ากรรมดีมาส่งผลมากในวินาทีนั้น เราก็มีความสุข
แต่ถ้ากรรมไม่ดีมาส่งผลมากกว่ากรรมไม่ดีในช่วงนั้น
เราจึงรู้สึกทุกข์มากกว่าสุขการที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น
หากใครเข้าใจก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
เพียงสร้างกรรมดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
มีสติอยู่กับลมหายใจแห่งปัจจุบัน มีความพอใจในปัจจุบัน ไม่หลงอดีต
ไม่หลงปัจจุบัน ไม่คาดหวังในอนาคตที่ยังมามาถึง
กรรมไม่ดีที่เคยก่อนั้นไม่ว่าจะเป็นในชาติไหนหรือในชาติปัจจุบันก็ตาม
ไม่สามารถตามไปแก้ไขไม่ให้เกิดได้แล้ว สิ่งที่แล้วไปแล้วอย่าไปติดยืด
อย่าไปหวนคิดให้เจ็บช้ำใจอีกเลย ทางที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดก็คือ
อย่าก่อกรรมนั้นอีก เอามาเป็นครูและรู้จักเกรงกลัว
ละอายที่จะทำกรรมไม่ดีนั้นเอง พยายามเรียนรู้และเข้าใจในกฎแห่งกรรมให้มากที่สุดพระพุทธเจ้า
ทรงสอนว่าถึงแม้กรรมที่เกิดจากการกระทำในอดีตจะส่งผลมาถึงปัจจุบันและอนาคต
ก็ตาม แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองใหม่ตลอดเวลา
หรือเลือกที่จะทำให้ตนเองพบโชคดี
โชคลาภได้ตลอดเวลาด้วยการสร้างกรรมดีใหม่อย่างไม่หยุดยั้งในชาตินี้
มีชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทในกรรมและไม่กลัวกรรมเก่าด้วย
อย่าไปยอมจำนนต่อกรรมเก่า
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องกฎแห่งกรรมเพื่อให้เราทุกคนพัฒนาตนเอง
พัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นตลอดเวลา
ไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ทำให้ชีวิตต้องมาพบกับความลำบาก อุปสรรคต่างๆ
มีความพร้อมอยู่เสมอ
ไม่หลงทางไม่ประมาทในการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้จนเตรียมการที่จะมีความสุข
ความเจริญไปถึงโลกหน้าขอย้ำอีกครั้งว่า ผลจากการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มีผลมากที่สุดที่จะทำให้เกิดโชคลาภมีความสุข ความสำเร็จ รวยได้ทั้งอย่างฉับพลัน หรือรวยอย่างยั่งยืนได้จริง
ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่า การทำบุญ
การไปทำทานหรือสะเดาะเคราะห์ต่างๆ จะช่วยให้ตนเองรอดพ้นจากบาปกรรม
ความทุกข์ ความเศร้าโศกหรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าโชคร้าย
ดวงตกนั้นไปได้อย่างทันทีทันใด ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นบุญนั้นไปลบล้างบาปกรรมที่ทำมาไม่ได้
แต่บุญที่ทำจะพาชีวิตให้พ้นจากกรรมไม่ดีที่ทำมาได้จริง
ถ้ามีพลังบุญมากพอและสามารถส่งผลทั้งในชาตินี้และข้ามภพชาติด้วย
เราต้องเรียนรู้ว่า บุญนั้นอยู่ในส่วนของบุญที่ต้องส่งผล
บาปหรือกรรมไม่ดีทีทำไปแล้วก็ต้องส่งผลเช่นกัน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปได้
แต่อยู่ที่ว่าในส่วนไหนจะมีพลังและส่งผลได้มากกว่ากันในเวลานั้น
เหมือนระหว่างสุนัขล่าเนื้อกับกวาง ใครจะวิ่งได้เร็วกว่ากัน ที่มีความสุข
มีโชคมากขึ้นแต่เป็นเพราะกระแสของบุญนั้นส่งผลแรงเกินกว่าที่กรรมชั่วจะตาม
ทัน เราก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น สุขสบายขึ้น เท่านั้นเองแต่จริง ๆ
แล้วกรรมเก่ามันไม่ได้หนีหายไปไหนเลยมันแค่รอจังหวะ
รอโอกาสว่าเมื่อไหร่ผลของกรรมชั่วที่เราทำในปัจจุบันนี้จะส่งผลมันจะผสมโรง
ด้วยทันทีที่ทำได้ถ้าอยากหนีให้ไกลจากสิ่งไม่ดีหนีจากความโชคร้าย ก็เร่งสร้างบุญ
เร่งทำความดี ไม่ทำความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใสชีวิตก็จะมีแต่ความสุข
ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป
หวังว่าที่กล่าวไปแล้วนั้นท่านผู้อ่านทุกท่านจะพอเข้าใจพอสมควรแล้วว่า
โชคนั้นมาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อเข้าใจสิ่งแล้วก็จะสามารถมีกำลังใจที่จะสร้างโชคให้เกิดขึ้นกับชีวิต
ของเราได้อย่างถูกต้อง
ต่อไปนี้จะนำเรื่องของการที่จะทำให้เกิดความโชคดีในชีวิต
ทำให้โชคลาภที่ควรจะได้มาถึงเร็วมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่ที่กรรมกำหนด แต่ที่แน่นอนที่สุด
ทุกวิธีการที่บอกทั้งหมดนี้จะไม่เกิดผลเลย หรือเกิดผลช้าถ้า
เรายังเป็นผู้สร้างกรรมดีผสมกับการทำชั่วไปด้วย ยิ่งทำชั่วมากกว่าทำดี
ก็อย่าไปหวังเลยว่าตนเองจะโชคดีมีโชคลาภ
เพราะผลของกรรมชั่วนั้นแรงกว่าก็ต้องส่งผลก่อน เป็นกฎแห่งกรรมเหมือนกับเราต้องการวิ่งไปถึงเส้นชัยโดยเร็ว
แต่เราก็ไปสร้างตัวถ่วงมาถ่วงขาของตัวเองไปด้วยยิ่งสร้างตัวถ่วงมาก
มันจึงไปไม่ถึงไหน เผลอๆ อาจจะหกล้มหกคะเมนด้วยซ้ำ
เพราะโดนกรรมเก่าไม่ดีมันท่วมตัว มันไล่ตามมาทัน
ทีนี้ชีวิตคงจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
บุญที่ทำก็ส่งผลไม่ได้เพราะมีกำลังน้อยกว่า
ข้อแรกที่ต้องทำและขอย้ำว่าสำคัญมากก็คือ หยุดทำความชั่วทั้งมวล
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หากยังไม่สามารถทำได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามให้พยายามลด ละ
เลิกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเร่งทำกรรมดี
สร้างบุญกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอรับรองว่า ถ้าทำได้ โชคทั้งหลาย ลาภที่ควรจะได้ จะหลั่งไหลมาและเปลี่ยนชีวิตทุกท่านไปตลอดกาลอย่างน่าอัศจรรย์ใจเรื่องน่าสนใจ