ตำนานลอยกระทง 6 ความเชื่อลอยกระทงวันเพ็ญเดือนสิบสอง

อ่าน 5,805

ตำนานลอยกระทง

6 ความเชื่อลอยกระทงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ทั้งตำนานเรื่องกาเผือก

เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท การต้อนรับพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากเทวโลก

การบูชาพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ การบูชาพระอุปคุต และเพื่อบูชาพระจุฬามณี

อีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันสำคัญอีกวันหนึ่งของคนไทย ซึ่งก็คือ

วันลอยกระทง นั่นเอง

สำหรับวันลอยกระทงนั้นเป็นวันที่คนไทยจะร่วมกันลอยกระทงเพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา

ที่มนุษย์ได้ใช้น้ำในการดื่มกิน รวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ

ลงในแม่น้ำ วันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

ตามปฏิทินจันทรคติไทย สำหรับปี 2559 วันลอยกระทงตรงกับวันจันทร์ที่ 14

พฤศจิกายน

การลอยกระทงในเมืองไทยนั้น มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม ต่อมานางนพมาศ

หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์

สนมเอกของพระร่วงได้คิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม

เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค

ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย

จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี

โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย

หลังจากนั้นจึงมีการสืบต่อประเพณีการลอยกระทงจนมาถึงปัจจุบัน

วันนี้เราก็ขอหยิบยกนำเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องเล่าตำนานวันลอยกระทง

มาฝากกันด้วยค่ะ

ถ้าอยากรู้ว่าในแต่ละตำนานเล่าถึงวันลอยกระทงกันว่าอย่างไร ตามไปดูกันเลย

ภาพจาก GOLFX / Shutterstock.com

1. ตำนานลอยกระทงจากนิทานชาวบ้าน เรื่องกาเผือก

เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์มีกาเผือกสองตัวผัวเมียทำรังอยู่บนต้นไม้ในป่าหิมพานต์ใกล้ฝั่งแม่น้ำ

วันหนึ่งกาตัวผู้ออกไปหากินแล้วหลงทางกลับรังไม่ได้

ปล่อยให้นางกาตัวเมียซึ่งกกไข่อยู่ 5 ฟอง รอด้วยความกระวนกระวายใจ จู่ ๆ

มีพายุใหญ่พัดมาโดนรังกระจัดกระจายจนไข่ทั้ง 5 ฟองตกลงน้ำ

ด้านแม่กาถูกลมพัดไปอีกทางหนึ่ง แต่เมื่อย้อนกลับมาไม่เห็นฟองไข่

จึงร้องไห้จนขาดใจตายไปเกิดเป็นท้าวพกาพรหมอยู่ในพรหมโลก ส่วนฟองไข่ทั้ง 5

นั้น ลอยน้ำไปคนละทิศคนละทาง

ต่อมาแม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า

แม่โค และแม่ราชสีห์ ได้มาพบเข้า จึงนำไปรักษาไว้ตัวละ 1 ฟอง

ครั้งถึงกำหนดฟักกลับกลายเป็นมนุษย์ทั้งหมด ไม่มีฟองไหนเกิดมาเป็นลูกกาเลย

โดยกุมารทั้ง 5 มีนามว่า กกุสันโธ (วงศ์ไก่), โกนาคมโน (วงศ์นาค), กัสสโป

(วงศ์เต่า), โคตโม (วงศ์โค) และเมตเตยยะ (วงศ์ราชสีห์) ต่อมากุมารทั้ง 5

ต่างเห็นโทษภัยในการเป็นฆราวาสและเห็นอานิสงส์ในการบรรพชา

จึงขอลาไปบวชเป็นฤาษี และทั้ง 5 คน

ได้มีโอกาสพบปะกันและถามถึงนามวงศ์และมารดาของกันและกันจึงทราบว่าเป็นพี่น้องกัน

จากนั้นทั้งหมดได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า

ถ้าต่อไปจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าขอให้ร้อนไปถึงมารดา

และด้วยแรงอธิษฐานของทั้ง 5

ท้าวพกาพรหมจึงเสด็จมาจากเทวโลกจำแลงองค์เป็นกาเผือก

แล้วเล่าเรื่องราวให้ฟังพร้อมบอกว่าถ้าคิดถึงมารดาเมื่อถึงเพ็ญเดือน 11

เดือน 12 ให้เอาด้ายดิบผูกไม้ตีนกาปักธูปเทียนบูชาลอยกระทงในแม่น้ำ

เพื่อแสดงความคิดถึง

ตั้งแต่นั้นมาจึงมีการลอยกระทงเพื่อบูชาท้าวพกาพรหมและเพื่อบูชารอยพระบาท

ซึ่งประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที ส่วนฤาษีทั้ง 5

ต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้

- ฤาษีองค์แรก กกุสันโธ (พระกกุสันโธ)

- ฤาษีองค์ที่สอง โกนาคมโน (พระโกนาคมน์)

- ฤาษีองค์ที่สาม กัสสโป (พระกัสสปะ)

- ฤาษีองค์ที่สี่ โคตโม (พระสมณโคดม)

- ฤาษีองค์ที่ห้า เมตเตยยะ (พระศรีอาริยเมตไตรย)

ตามตำนานดังกล่าว

ได้มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์แรก มาบังเกิดบนโลกมนุษย์แล้วในอดีตกาล

พระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 คือ พระพุทธเจ้าที่จะมาบังเกิดบนโลกในอนาคต ได้แก่

พระศรีอาริยเมตไตรย

2. ตำนานลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่ไปปรากฏอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที

มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ คือ

ครั้งหนึ่งพญานาคได้ทูลอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ให้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เมื่อพระองค์เตรียมเสด็จกลับ

พญานาคจึงได้ทูลขออนุสาวรีย์ไว้สำหรับกราบไหว้บูชา

พระพุทธองค์จึงทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หาดทราย

ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที

เพื่อให้บรรดานาคทั้งหลายได้ลอยกระทงเพื่อสักการบูชา

ภาพจาก 501room / Shutterstock.com

3. ตำนานลอยกระทงเพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากเทวโลก

เป็นตำนานที่เล่ากันว่า เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ

ได้เสด็จออกบวชจนได้บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้เสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เพื่อทรงเทศนาธรรมโปรดพระพุทธมารดา

จากนั้นพระองค์ได้เสด็จกลับลงสู่โลกมนุษย์

ในการเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ครั้งนี้ เหล่าทวยเทพและประชาชนทั้งหลาย

ได้พร้อมใจกันทำการสักการบูชาด้วยทิพย์บุปผามาลัย การลอยกระทงตามตำนานนี้

จึงเป็นการรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากดาวดึงส์พิภพ

4. ตำนานลอยกระทงเพื่อบูชาพระนารายณ์บรรทมสินธุ์

พิธีการลอยกระทงตามคติพราหมณ์ ซึ่งกระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้า คือ

พระนารายณ์ที่บรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร นิยมทำพิธีการลอยกระทงกันในวันขึ้น

15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็น 2 ระยะ

ซึ่งจะทำในกำหนดใดก็ได้

5. ตำนานลอยกระทงเพื่อบูชาพระอุปคุต

พระเจ้าอโศกมหาราชทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ได้โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป

มหาวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ อโศการาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแคว้นมคธ

หลังจากที่สร้างพระสถูปเจดีย์ถึง 84,000 องค์สำเร็จแล้ว

พระเจ้าอโศกทรงมีพระราชประสงค์จะนำพระบรมสารีริกธาตุของสัมมาสัมพุทธเจ้า

ไปบรรจุในในพระสถูปต่าง ๆ และบรรจุในพระมหาสถูปองค์ใหญ่

ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาให้ปาฏลีบุตร

และยังต้องการให้มีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เป็นเวลา 7 ปี 7 เดือน 7 วัน

แต่ด้วยเกรงว่าพญามารจะมาทำลายพิธีฉลอง

มีเพียงพระอุปคุตที่ไปจำศีลอยู่ในสะดือทะเลเพียงท่านเดียวเท่านั้น

ที่จะสามารถปราบพญามารได้

เมื่อพระอุปคุตปราบพญามารจนสำนึกตัวหันมายึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้ว

พระอุปคุตต์จึงลงไปจำศีลอยู่ในสะดือทะเลตามเดิม

จากนั้นจึงมีการลอยกระทงเพื่อบูชาพระอุปคุตต์ สำหรับพระอุปคุต

คนไทยจะเรียกได้อีกชื่อว่า พระบัวเข็ม

6. ตำนานลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี

ตำนานนี้เล่ากันว่า เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะ

เสด็จออกจากพระนครกบิลพัสดุ์ ในเวลากลางดึกด้วยม้ากัณฐกะ พร้อมนายฉันทะ

มหาดเล็กผู้ตามเสด็จ ครั้นรุ่งอรุณก็ถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานที

เจ้าชายทรงขี่ม้ากัณฐกะ กระโจนข้ามแม่น้ำไป

เมื่อทรงทราบว่าพ้นเขตกรุงกบิลพัสดุ์แล้ว

เจ้าชายสิทธัตถะจึงเสด็จลงประทับเหนือหาดทรายขาวสะอาด

ตรัสให้นายฉันทะนำเครื่องประดับและม้ากัณฐกะกลับพระนคร

และทรงตั้งพระทัยปรารภจะบรรพชา โดยเปล่งวาจา "สาธุ โข ปพฺพชฺชา"

แล้วจึงทรงจับพระเมาลีด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ตัดพระเมาลี

แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ พระอินทร์ได้นำผอบทองมารองรับพระเมาลีไว้

และนำไปบรรจุยังพระจุฬามณีเจดีย์สถานในเทวโลก

ทำให้การลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี

จึงถือเป็นการไหว้บูชาพระศรีอริยเมตไตรยด้วย

และนี่คือ 6 ตำนานความเชื่อลอยกระทงวันเพ็ญเดือนสิบสองที่ถูกเล่าสืบต่อกันมา



บทความแนะนำ


ริต้าพาเที่ยวเสาไฟฟ้าล้มริต้าเสาไฟฟ้าหักการศึกษามหาวิทยาลัยทะเลภูเก็ตเสาไฟฟ้าถล่มทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก