เรื่องเล่าในพระไตรปิฎกเพื่อเตือนสติไม่ให้ทำบาป
กาที่ถูกเผาไหม้ในอากาศ
ในพระอรรถกถาธรรมบท เรื่อง ตโยชน ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก
กล่าวว่า ครั้งหนึ่งมีภิกษุหลายรูปเดินทางมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ซึ่งประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวัน ระหว่างทาง ณ ตำบลหนึ่ง
ชาวบ้านนิมนต์ให้เหล่าภิกษุมานั่งฉันภัตตาหาร
ขณะนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังปรุงอาหารอยู่ เปลวไฟจากเตาได้ลุกไปติดชายคาเสวียนหญ้าอันหนึ่ง (ภาชนะวงกลมเอาไว้รองก้นหม้อ) ที่อยู่ชายคาก็ลุกไหม้ในอากาศ ปลิวไปสวมคอของกาตัวหนึ่งที่บินมาถึงพอดี กาตัวนั้นจึงถูกไฟไหม้ตกลงมาตาย
เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าภิกษุบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
เพราะไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดกาตัวนั้นต้องรับเคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุเช่นนั้น
ถ้ากาบินสูงกว่านั้นอีกสักหน่อย หรือ บินไปทางอื่น หรือ
บินมาในเวลาอื่นย่อมไม่ต้องสังเวยชีวิตเช่นนั้นแน่นอนเมื่อเหล่าภิกษุเดินทางไปถึงวัดพระเชตวันจึงได้ไปทูลถามเรื่องราวที่ได้ประสบมาว่าเหตุใดกาตนนั้นจึงต้องรับผลกรรม
พระพุทธองค์จึงตรัสเล่าให้ฟังว่า ในอดีตมีชาวนาผู้หนึ่งฝึกโคของตนอยู่ แต่โคตัวนั้นเป็นโคขี้เกียจ
ฝึกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ดั่งใจ เดินไปได้หน่อยหนึ่งก็ขี้เกียจแล้วนอนเสีย
แม้จะเอาไม้ตีไล่ให้ลุกขึ้นก็เดินไปได้หน่อยหนึ่งแล้วก็นอนเสียเหมือนเดิม
ชาวนาจึงโกรธมาก ไปเอาฟ่อนฟางมาพันคอโค แล้วทำการจุดไฟเผา
ให้โคตัวนั้นถูกไฟคลอกตายด้วยอำนาจแห่งบาปกรรมนั้น ทำให้ชาวนาคนนั้นต้องไปตกนรกหมกไหม้อยู่เป็นเวลานาน
ด้วยเศษแห่งบาปกรรมที่เหลือ จึงต้องไปเกิดเป็นนกกาที่ถูกทำให้ร่างกายต้องมอดไหม้ในอากาศถึง 7