เรื่องราว หลวงปู่ทวด และที่มาของตำนาน "เหยียบน้ำทะเลจืด"

อ่าน 3,450

คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ

หลวงปู่ทวด อย่างแน่นอน แต่เชื่อว่า ยังมีอีกหลายคนไม่รู้ว่า คำว่า "

เหยียบน้ำทะเลจืด " ที่ต่อท้ายชื่อของท่าน มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่!

วันนี้จะมาเฉลยให้อ่านกันค่ะ

เมื่อครั้งเด็กชายปู

(หลวงปู่ทวดวัยเด็ก) อายุได้ 7 ขวบ

นายหูผู้เป็นพ่อนำไปฝากเรียนหนังสือกับท่านสมภารจวงที่วัดกุฎีหลวง

(วัดดีหลวง) เด็กชายเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบปฎิภาณดีมาก

สามารถอ่านเขียนภาษาไทยและภาษาขอมได้อย่างรวดเร็ว

เมื่ออายุได้

15 ปี ท่านสมภารจวงให้เด็กชายปูบวชเป็นสามเณร

นายหูจึงมอบลูกแก้วคู่บารมีเด็กชายให้ไว้คุ้มครอง

เมื่อบวชแล้วสมภารจวงนำสามเณรปูไปฝากไว้กับท่านพระครูสัทธรรมรังษีที่วัดสีหยัง

(วัดสีคูยัง) เพื่อเรียนหนังสือวิชามูลกัจจายน์

ซึ่งเป็นวิชาที่ภิกษุสามเณรชาวใต้ศึกษาเล่าเรียนกันมาก

จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาต่อที่วัดสีมาเมือง

ที่เมืองนครศรีธรรมราชสามเณรปูเรียนที่นี่จนอายุครบอุปสมบท

จึงไปอุปสมบทที่อุโบสถกลางคลองแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า ท่าแพ

มีพระครูกาเดิมเป็นพระอุปัชฌาย์และได้ฉายาว่า ?สามีราโม?

ซึ่งต่อมาชาวบ้านพากันเรียกว่า ?เจ้าสามีราม?

เมื่อเจ้าสามีรามอยู่ศึกษาที่เมืองนครศรีธรรมราชจนเพียงพอแล้ว

จึงคิดไปศึกษาต่อด้านวิปัสสนาธุระที่กรุงศรีอยุธยา

ซึ่งในสมัยนั้นมีพระอริยเจ้าชั้นสูงที่แตกฉานในปฏิสัมภิทาญาณ 4

มีฤทธานุภาพจำนวนมาก

ท่านจึงได้กราบลาครูกาเดิมและขอโดยสารเรือสำเภาของนายอินทร์

ซึ่งกำลังจะไปค้าขายที่กรุงศรีอยุธยา

หลังจากล่องเรือสำเภาออกสู่ทะเลอย่างปลอดภัยมา

3 วัน 3 คืน ก็เจอเหตุการณ์ท้องทะเลแปรปรวนวิปริต

ท้องฟ้ามืดมัวเกิดพายุฝนลมแรง

ทำให้เรือแล่นต่อไปไม่ได้ต้องจอดทอดสมอสู้คลื่นลมอยู่ 3 วัน 3

คืนพายุจึงสงบลง ช่วงนั้นเองบนเรือน้ำจืดหมดลง

ทำให้คนในเรือขาดน้ำดื่มและน้ำเพื่อหุงต้มอาหาร

นายอินทร์และลูกเรือไม่เคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อน

รู้สึกโมโหและพาลเข้าใจว่านี่คืออาถรรพณ์เหตุร้ายที่พาเจ้าสามีรามลงเรือมาด้วย

จึงไล่เจ้าสามีรามลงเรือเล็ก หวังจะปล่อยท่านกลับสู่ฝั่งตามยถากรรม

ขณะที่เจ้าสามีรามอยู่ในเรือลำเล็ก

ท่านได้เข้าฌานสมาบัติแล้วอธิษฐานจิตด้วยฤทธิ์อภิญญา

จากนั้นยื่นเท้าลงไปในน้ำทะเล

ทันใดนั้นน้ำทะเลที่ท่านเหยียบก็เกิดประกายสีขาวเรืองรองเป็นวงขนาดใหญ่เท่าล้อเกวียน

ท่านบอกให้ลูกเรือตักน้ำตรงนั้นขึ้นมาลองดื่ม

ปรากฏว่าน้ำนั้นเย็นฉ่ำจืดสนิทเหมือนน้ำฝนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ

พวกลูกเรือต่างดีใจช่วยกันตักน้ำใส่ถังจนเต็ม

นายอินทร์และลูกเรือเมื่อเห็นความอัศจรรย์และอิทธิฤทธิ์ของเจ้าสามีรามต่างพากันหวาดกลัวในบาปกรรมที่ได้ทำ

จึงพร้อมใจกันนิมนต์เจ้าสามีรามกลับขึ้นเรือสำเภา

แล้วพากันกราบไหว้ขอขมาเป็นการใหญ่

เนื่องจากเจ้าสามีรามเจริญฌานเมตตาอยู่เป็นนิจจึงให้อภัยและไม่คิดโกรธเคืองถือสาหาความ

จากนั้นทั้งหมดก็ได้เดินทางต่อไปอย่างราบรื่น

เมื่อถึงกรุงศรีอยุธยาแล้ว นายอินทร์นิมนต์ให้เจ้าสามีรามพักที่วัดแค

และให้อ้ายจันทาสของตนอยู่รับใช้อุปัฎฐากเจ้าสามีรามเป็นอย่างดี

แล้วนายอินทร์ก็ขอกราบลาไปขายสินค้าและเดินทางกลับไปหัวเมืองทางใต้

ส่วนสามีรามศึกษาธรรมะต่อที่วัดลุมพลีนาวาส

เมื่อนายอินทร์กลับมายังกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง

เขานิมนต์เจ้าสามีรามให้ไปพักที่วัดสมเด็จพระสังฆราชเจ้าสามีรามจึงย้ายมาศึกษาธรรมะและบาลีอยู่ที่วัดแห่งนี้จนเชี่ยวชาญ

ก่อนกราบลาสมเด็จพระสังฆราชไปจำพรรษาอยู่ที่วัดราชานุวาสซึ่งเป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสี

อยู่นอกกำแพงเมืองกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะแก่การเจริญกรรมฐาน

ขอบคุณเนื้อหาจาก:www.goodlifeupdate.com



บทความแนะนำ


โตเมโต้อะโลซีรั่มAloe+TomatoSerumสมูทโต๊ะตลกชื่อดังนักแสดงตลกอิดหนาระอาใจความรู้สึกเกิดอารมณ์โหน่งบุหรี่ลูกชายซีรั่มsmootoทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก