"ทุกอย่างนี้ไปแบกไว้ทำไม..ถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเราก็จับวาง" 6 ปีที่ไม่มีท่าน 30 มค. วันคล้ายวันละสังขารหลวงตามหาบัว "ฟ้าหญิงฯจุฬาภรณ์" บุตรบุญธรรม ทรงตรัสถึงคำสอนหลวงตา!!!

อ่าน 9,630

เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ขอเป็นบุตรบุญธรรมหลวงตามหาบัวเป็นที่ทราบกันดีว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ" พระองค์ทรงศรัทธาเลื่อมใสต่อองค์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มาก ถึงกับปวารณาขอเป็นลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มหาบัว ในปี พ.ศ.2538 และขอเป็นบุตรบุญธรรมในปี พ.ศ.2542 ขอเป็นบุตรบุญธรรมหลวงตาฯ อันเนื่องมาจากทรงเคยตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ไปยังวัดป่าบ้านตาดในหลายครั้งอีกด้วยสำหรับความรักความผูกพันของพระองค์ต่อหลวงตามหาบัว ทรงกล่าวด้วยพระองค์เองอย่างภาคภูมิพระทัยหลายแห่ง หลายวาระ เช่น คราวหนึ่งที่ประทานสัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่ง"?หลวงตามหาบัวจะมาฉันเช้าที่บ้าน นิมนต์ท่านไว้ อันนี้เป็นความปลาบปลื้มที่สุด เพราะหลวงตาอุตส่าห์รับเป็นศิษย์เมื่อปี พ.ศ. 2538 และเมื่อปีที่แล้วท่านก็รับเป็นบุตรบุญธรรม เป็นความซาบซึ้งมากแล้ว?มีเวลาก่อนนอนที่ไม่ขาดคือสวดมนต์แล้วนั่งสมาธิภาวนา มี 10 นาที ก็นั่ง 10 นาที มี 20 นาที ก็นั่ง 20 นาที แล้วแต่จะเป็นไปได้ แต่ทำเป็นประจำ"

"?อีสานที่ไปบ่อย เพราะว่าศึกษาธรรมะอยู่ที่อุดรธานี ไปเกือบทุกวีกเอนด์ คือว่าตอนที่ไม่สบายแล้วปวดศีรษะไม่หายเสียที อันนี้เป็นเหมือนชะตาฟ้าลิขิต คือธรรมดาพระเถระองค์นี้ท่านไม่เคยไปไหน ท่านไม่ขึ้นเครื่องบิน ท่านมากรุงเทพฯ ไม่ชอบพับลิกซิตี้ ตอนที่ไม่สบายท่านมาโปรดที่โรงพยาบาล แล้วพอท่านพูดธรรมะปั๊บนี่ก็รู้สึกเข้าใจ รู้สึกสบายใจ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยศึกษาธรรมะ บอกกับท่านว่า คงไม่ถึงกับไปนุ่งขาวห่มขาวหรอก แต่ว่าทำใจได้ขึ้นเยอะ?""?ท่านบอกว่า ทุกอย่างนี้ไปแบกไว้ทำไม ทุกอย่างมาถึงรับมาพิจารณา ถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเราก็จับวาง ถ้าเป็นข่าวลือ ลือไป ถ้าคนมาถาม อธิบายหนเดียว แต่ถ้าถามหลายหนก็ไม่ต้องอธิบายแล้ว แสดงว่าเขาไม่ตั้งใจจะเข้าใจ เขาจะหาเรื่อง??อีกแนวหนึ่งที่เราทำแล้วรู้สึกดีมาก คือนั่งวิปัสสนาที่ท่านหลวงตามหาบัวสอน ยังนั่งอยู่ทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงถึงสี่สิบห้านาที นั่งตอนกลางคืนก่อนนอน ที่ทำอยู่คือกำหนดลมหายใจ อยู่กับคำว่าพุทโธอย่างเดียวแรก ๆ ก็ทำยาก หลัง ๆ ทำได้ เจตนาของการนั่งคืออยากให้สงบ ไม่ได้อยากเห็นอะไร วิธีปฏิบัตินี่จะนั่งท่าไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ เดินไปรอบ ๆ ก็ยังได้?"นอกจากนี้ ในรายการวู้ดดี้ เกิดมาคุย ยังได้เคยพระราชทานสัมภาษณ์โดยตรัสถึงคำสอนของหลวงตามหาบัวที่ยึดมั่นในพระหฤทัยเสมอมาว่า"คนเราสำคัญที่ใจ เพราะคนเรามีใจเป็นประธาน หากจิตใจดีแล้ว ทุกอย่างจะดีตามไปด้วย เพราะฉะนั้น หากมีสิ่งใดที่กระทบจิตใจ ถูกนินทากล่าวร้าย ขั้นแรกก็ต้องพิจารณาว่า สิ่งนั้นเป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงก็ต้องพิจารณาตัวเอง ปรับปรุงแก้ไขตัวเองก่อนจะไปพิจารณาคนอื่น แต่หากสิ่งที่คนพูดกันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ตรงกับความเป็นจริง ก็ต้องปล่อยวางสิ่งนั้นทันที รวมทั้งต้องให้อภัย เพราะการแบกของหนัก ๆ อยู่ มันหนัก ต้องปล่อยวางให้เร็วจะได้สบาย หลวงตามหาบัวเคยสอนไว้ว่า การปล่อยวางเป็นสิ่งที่ทำยาก แต่ก็ต้องค่อย ๆ ทำ ถึงเวลาปล่อยก็ต้องปล่อย และการนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้นิ่งสงบจะสามารถช่วยให้ปล่อยวางได้""หลวงตามหาบัวยังสอนอีกว่า อดีตที่เป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เราแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นเรื่องในอดีตต้องปล่อยวางไปเช่นกัน ส่วนเรื่องอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าไปจินตนาการเพราะจะทำให้ฟุ้งซ่าน ดังนั้นควรอยู่และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะดีเอง"เจ้าฟ้าหญิงฯ ตรัสอีกว่า ทรงเรียกหลวงตามหาบัวว่า "ท่านพ่อ" และหลังจากที่หลวงตามหาบัวละสังขารไป ทรงรู้สึกว้าเหว่อยู่บ้าง แต่ไม่ทรงกรรแสง เพราะหลวงตามหาบัวเคยสั่งไว้ ไม่ให้ร้องไห้ และสอนด้วยว่า หากทูลกระหม่อมเก็บ "พ่อ" ไว้ในใจ "พ่อ" ก็จะอยู่กับทูลกระหม่อมตลอดไปขอบคุณที่มา : บทสัมภาษณ์พระราชทานในนิตยสาร Peaple ฉบับเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 , หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์, รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย



บทความแนะนำ


เหรียญ5บาทปี2540เหรียญ5ปี40ข่าวท่องเที่ยวสายการบินศรีสะเกษเหรียญ5พันห้าทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก