ตำนานเจ้าแม่เขาสามมุข หาดบางแสน โศกนาฎกรรมความรัก ที่ยังตราตรึงในหัวใจคนไทย

ความเชื่อ วันนี้เราจะพาแฟนบ้าบิ่นมาสัมผัสกับเรื่องราวความรักที่เปรียบเป็นรักแท้ที่บริสุทธิ์เป็นตำนานที่เล่าขานต่อกันมานับร้อยปีเรื่องราวของเขาสามมุขคนโบราณเล่าต่อกันมาว่า เมื่อก่อนบริเวณที่ตั้งเขาสามมุขนั้นยังไม่มีบ้านคนซึ่งจะเรียกกันว่าตำบลอ่างหินคนที่มักเป็นกลุ่มชาวประมงริมทะเล เจ้าของโป๊ะชื่อกำนันบ่ายมีลูกชายชื่อแสน และห่างจากอ่างหินมีบ้านของหญิงสาวที่อาศัยอยู่กับยายชื่อสามมุขตั้งแต่เด็กๆจนกระทั่งโตเป็นสาว สามมุขมักชอบดูหนุ่มสาวเล่นว่าวกันและยังลิงป่าที่คอยเล่นหยอกล้อเป็นเพื่อน

อยู่มาวันหนึ่งมีว่าวขาดรอยมาตรงหน้าสามมุขจึงได้มาเก็บไว้ แสนเจ้าของว่าววิ่งตามมาเก็บว่าวและแล้วเขาก็ได้เจอกัน ทั้งสองได้รู้จักกันแสนมอบว่าวให้สามมุขเป็นที่ระลึก ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้นจนกระทั่งเกิดความรัก แสนได้ให้แหวนไว้เป็นเครื่องแสดงความรักและได้สาบานต่อหน้าขุนเขาว่าจะครองรักกันชั่วนิรันดร์ถ้าใครผิดคำสาบานจะต้องมากระโดดหน้าผาตายตกตามกันไป ต่อมาแสนได้ขอร้องให้พ่อไปขอสามมุขให้แต่ผู้เป็นพ่อไม่พอใจจึงกีดกันและบังคับให้แสนแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของโป๊ะ

จนกระทั่งสามมุขได้รู้ข่าวเข้าจึงเสียใจมากแต่ยังมางานแต่งของคนรักเพื่ออวยพรและมอบแหวนคืนให้จากนั้นก็วิ่งหนีออกไป กระโดดหน้าผาตรงที่เคยสาบานร่วมกันจนร่างหล่นลงมาบนพื้นทะเล แสนเห็นเช่นนั้นจึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาตายตาม ชาวบ้านต่างพากันเศร้าโศกไปตามกัน พากันสาปแช่งกำนันบ่าย กำนันบ่ายเสียใจกับการกระทำของตนจึงได้นำข้าวของเครื่องใช้ของแสนมาวางไว้หน้าถ้ำและตั้งชื่อเขาลูกนี้ว่าเขาสามมุขและหาดที่ติดกันว่าหาดบางแสน พอตกกลางคืนชาวบ้านสังเกตเห็นร่างของชายหญิงยืนอยู่คู่กันบนหน้าผาทุกคืน ชาวบ้านจึงตัดสินใจช่วยกันสร้างศาลเพื่อเป็นที่สิงสถิตให้กับดวงวิญญาณเป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวบ้านและคนทั่วไป และเชื่อว่าหากใครจะขอพรให้ความรักสมหวังต้องนำว่าวโดยเขียนชื่อทั้งสองคนไว้ในว่าวตัวเดียวกันแล้วอธิษฐานก็เชื่อว่าจะทำให้สมหวังในรักได้เช่นกันได้รับการสนับสนุน

***ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม***

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :ดีเจแอน channel