ลักษณะของ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" ผีเฝ้าสมบัติ ที่ไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ

สมัยก่อนคนที่มีทรัพย์สมบัติมากมายเพราะการค้า การมีเงินจากการที่ได้กำไรเพราะการซื้อขายข้าทาสบริวารไว้ประดับบารมี ตระกูลใหญ่ที่มีลูกหลานมากมายจะสะสมทรัพย์ไว้สำหรับเป็นมรดกตกทอด แต่คราใดที่มีเหตุศึกสงคราม ทำให้คนที่มีทรัพย์สินมิอาจขนย้ายไปจากบ้านเรือน จะหาวิธีที่ป้องกันอย่างไร และคุ้นเคยกับวลี ?ปู่โสมเฝ้าทรัพย์? บ้างหรือเปล่า สองอย่างมีความสัมพันธ์กัน บทความนี้ Horoscope thaiza จะอธิบาย

คนโบราณสมัยอยุธยาเริ่มรู้จักการค้าขายกับชาวจีนทางเรือ ต่อมาในแผ่นดินพระนารายณ์มหาราชการค้ากับชาวต่างประเทศรุ่งเรือง มีการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับชาวยุโรป คหบดีน้อยใหญ่มีวิธีป้องกันทรัพย์สินตนเองมิให้ผู้อื่นที่ประสงค์ร้ายมาแอบลักขโมยเอาไปโดยการฝังดินบางส่วน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีทรัพย์สินมากจะเก็บสมบัติไว้บนเรือน แต่เมื่อบ้านเมืองไม่สงบมีศึกสงครามคราใด การย้ายทรัพย์สมบัติทำได้ยาก โดยเฉพาะสมบัติชาติที่อยู่ตามวัด นอกจากการใช้ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไว้ อ่านแล้ววัยรุ่นคนรุ่นใหม่บางคนอาจสงสัยว่าคนที่จะเป็นปู่โสมต้องมีลักษณะเป็นอย่างไร คือวิธีที่คนโบราณใช้การหาอาสาสมัครที่เต็มใจที่จะตายเพื่อวิญญาณจะได้ปกป้องทรัพย์สมบัติ การอาสาตายที่ว่าจะมีผลด้านไสยศาสตร์แก่กล้าจะต้องหา ผู้อาสามีวิชาอาคม เป็นคนท้องที่ รักบ้านเมืองหวงแหนทรัพย์สมบัติชาติมาทำการตัดคอบริเวณที่ฝังสมบัติ แล้วให้วิญญาณคอยรักษาทรัพย์สมบัติเพราะคนโบราณเชื่อว่าการตายโหงผีจะเหี้ยนที่สุด วิญญาณคนตายจะเวียนอยู่กับที่เฝ้าสมบัติเป็นที่มาวลี ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ผู้ใดที่บังอาจเข้ามาขโมยต้องเจอวิญญาณปู่โสมเล่นงานจนต้องหนีออกไป คนรุ่นใหม่บางคนยังคงเชื่อว่าบางวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยามีสมบัติฝังอยู่แต่ไม่มีคนกล้าไปขุดเพราะกลัวปู่โสม

สำหรับคนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับพังเพยเปรียบเทียบคนที่หวงสมบัติมาก ๆไม่ยอมให้ผู้อื่นใช้ ขณะที่ตนก็ไม่ได้ใช้ว่าปู่โสมเฝ้าทรัพย์

เรื่องราวทั้งหมดคนโบราณคือเรื่องจริงหรือไม่วิทยาศาสตร์ยังไม่ได้พิสูจน์ อาจจริงหรือไม่จริงแต่คนโบราณคงอยากจะสั่งสอนคนรุ่นลูกหลานว่าควรจะหวงแหนสมบัติชาติ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นต้นว่า พระพุทธรูปโบราณ แก้วมณี ไว้กับชาติอย่านำไปขายแก่ชาวต่างประเทศ และทรัพย์สินที่นับค่าไม่ได้อย่างโบราณประเพณีไทยที่นับวันจะจางหายไป