ตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอเพียง มาดู 10 ขั้นตอน "ปลูกผักสวนครัว" ทานเอง

อ่าน 10,708

เราเชื่อว่า หลายๆคนต้องเคยผ่านวิชาการเกษตร

หรือลองปลูกพืชสวนครัวกันมาบ้าง

อย่างน้อยก็ตอนเรียนวิชาพื้นฐานในโรงเรียนนั่นล่ะ

เราทุกคนรู้ดีว่ามันไม่ยาก

และประโยชน์ของการปลูกพืชผักบางชนิดทานเองก็ไม่ใช่แค่ประหยัด

เพราะเราจะได้วัตถุดิบที่ไม่มีสารพิษเจือปน

เราได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

เราได้กำลังทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นและอีกมากมาย

วันนี้เราจึงเอา10 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณจะสามารถ ?ปลูกผักสวนครัว? ทานเองได้มาฝากค่ะ

1. ถามตัวเองก่อน ว่าต้องการปลูกผักสวนครัวเพื่อวัตถุประสงค์ใด จากนั้นหาข้อมูลหรือเข้าอบรมหาความรู้เพิ่มเติม

2. ถามไถ่คนในบ้านถึงพืชที่ชอบรับประทาน หรือเลือกชนิดที่ใช้งานในครัวบ่อยๆ รวมถึงกำหนดปริมาณการปลูกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้าน

3. วางแผนการปลูกผักสวนครัว

โดยจัดตารางเวลาให้สอดคล้องกัน ว่ามีเวลาดูแลส่วนนี้มากน้อยแค่ไหน

หากไม่ค่อยอยู่บ้านหรือไม่มีเวลาดูแล

แนะนำให้ปลูกพืชยืนต้นอย่างสมุนไพรต่างๆ เพราะต้องการการดูแล น้อยกว่าผัก

ซึ่งเป็นพืชล้มลุก

4. เลือกทำเลในบ้าน ว่าบริเวณไหนได้แสงแดดทั้งวัน

บริเวณไหนได้แสงแดดเพียงครึ่งวัน เพื่อเลือกชนิดของพืชให้เหมาะกับแสง

อีกทั้งดูว่าบริเวณนั้นเป็นพื้นดินหรือพื้นซีเมนต์จากนั้นลงมือเขียนแปลน

คร่าวๆว่าตรงไหนจะปลูกอะไร

5. ปรุงดินให้พร้อมโดยใช้ดินเก่าที่มีอยู่ผสมด้วยปุ๋ย

คอก เศษใบไม้ และพืชผักจากครัว เปลือกไข่ กากกาแฟ แล้วแต่วัสดุที่มี

นำมาผสมรวมกัน เติมกากน้ำตาลเพื่อเป็นอาหารของจุลินทรีย์

จากนั้นใส่จุลินทรีย์อีเอ็ม ตามเพื่อช่วยเร่งการย่อยสลาย แล้วรถน้ำพอชุ่ม

อย่าให้แฉะ ผสมใส่ถังที่เตรียมไว้ รอประมาณ 2 ถึง 4

สัปดาห์ให้เศษพืชผักที่ใส่ลงไปย่อยสลาย

6. เตรียมแปลงปลูกโดยสร้างสรรค์รูปแบบตามใจชอบ

วัดขนาดความกว้างของแปลงตามระยะมือเอื้อมสะดวก

โดยอย่าลืมเว้นทางเดินระหว่างแปลง ให้สามารถเข้าไปดูแลได้

รวมถึงรักษาความสะอาดบริเวณโดยรอบ

หากพื้นที่จำกัดหรือบริเวณนั้นเป็นพื้นซีเมนต์

ไม่สะดวกสำหรับทำแปลงอาจปลูกพืชในกระถางตั้งพื้น หรือกระถางแขวนได้

7. เพาะเลี้ยงไส้เดือน

โดยใช้ลิ้นชักพลาสติกเก่าๆมาเจาะรูที่ก้นแต่ละชั้น ยกเว้นชั้นล่าง

หรือจะเลี้ยงใส่กะละมังวางซ้อนกันเป็นชั้นๆก็ได้ ใช้ปุ๋ยคอก

ดินขุยมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วรดน้ำพอชื้น

ใส่ในภาชนะที่จัดเตรียมไว้แล้ววางในที่ร่ม

เพราะไส้เดือนชอบอยู่ในที่ชื้นเย็นและมืด

ใช้เศษผักที่ปลูกเป็นอาหารเลี้ยงไส้เดือน ไม่นานจะได้มูลไส้เดือนที่มีสีดำ

รวนซุย ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดินอย่างดีเลิศ

อีกทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างดิน ช่วยให้รากพีชแผ่กระจายได้ดี

และใช้ได้กับพืชทุกชนิด

8. สร้างระบบนิเวศในบริเวณใกล้เคียงกัน

อย่าลืมปลูกดอกไม้ไม้ประดับ

หรือผักที่ให้ดอกเพื่อเรียกแมลงตัวดีมากำจัดแมลงที่ทำลายพืช

และหมั่นสังเกตการเติบโตของพืชผักก่อนเก็บมาบริโภค

จะได้ผักที่ปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน

9. เตรียมต้นอ่อนหาเมล็ดพันธุ์ดีมาเพาะ

ควรซื้อจากร้านที่วางเมล็ดไว้ในที่ร่ม ไม่ตากแดด ตากฝน

ก่อนเพาะควรอ่านรายละเอียดข้างซอง ก่อนพืชบางชนิดมีเมล็ดแข็งอาจต้องทุบ

หรือแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ให้รากงอกก่อนลงถาด

เพราะหลังลงถาดเพาะแล้วควรใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดหน้าดินเพื่อรักษาความ

ชื้น ส่วนสมุนไพรหลายชนิดใช้วิธีเพราะชำ เช่น โรสแมรี่ โหระพา ออมแซบ

ก่อนชำ ควรลิดใบออกให้เหลือเพียงเล็กน้อย เพื่อลดการคายน้ำ

ผักบางชนิดอาจใช้วิธีแยกหนอได้อย่าง คะน้าปูเล่

ควรพรางแสงให้ต้นอ่อนและรดน้ำอย่างเบามือ

10. ย้ายต้นกล้าประมาณ 1 สัปดาห์เมื่อต้นอ่อนของผักผลิใบ

อาจแยกมาปลูกลงภาชนะเล็กๆใบละ 1 ต้นประมาณ 1 เดือนเมื่อต้นกล้าแข็งแรง

มีใบเยอะขึ้น จึงนำออกไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ เพื่อรับแสงแดด

โดยนำดินที่เตรียมพร้อมแล้วใส่ลงในแปลงเกลี่ยให้เรียบเสมอกันนำแนวร่องปลูก

เพื่อความเป็นระเบียบจากนั้นใช้ พลั่วมือขุดดินเป็นหลุม

โดยเว้นระยะห่างแต่ละหลุมให้พืชเติบโตนำต้นกล้าลงปลูกอย่างเบาๆ

มือจากนั้นคุมหน้าดินด้วยฟางหรือหญ้าแห้งเพื่อรักษาความชื้นแล้วรดน้ำตาม

source: หนังสือ Pocket Garden Vol.3 สวนสวยกินได้,baanlaesuan.com



บทความแนะนำ


สารต้านอนุมูลอิสระวิตามินซีชะลอความแก่ทิปส์ท่องเที่ยวความเครียดคร่ำเคร่งการเรียนท่องเที่ยวทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก