โบสถ์เทพมณเฑียร สถานที่ที่ควรไปสักครั้ง
โบสถ์เทพมณเฑียรสถานที่ชื่อแปลกๆ ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากคุณได้รู้จักและทราบถึงเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้แล้ว คุณจะต้องอึ้ง! เพราะที่นี่เป็นเหมือนสถานที่รวมของเทพหลากหลายองค์ ที่คนทั่วไปต่างยกย่องศรัทธามากมาย?.
โบสถ์เทพมณเทฑียรถูกสร้างขึ้นโดย ศาสนิกชนชาวฮินดู ชาวภารตะ (ชาวอินเดีย) ในประเทศไทย เพื่อเป็นการรวมใจชาวภารตะให้เป็นหนึ่ง ณ อาคารเล็ก ๆ หลังหนึ่งในย่านหลังวังบูรพา (ใกล้โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า) ในนาม"ฮินดูสภา"ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น"สมาคมฮินดูสมาช"จนถึงปัจจุบัน
แต่เวลาผ่านไปสมาคมได้มีการขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น ตลอดจนทางสมาคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นมาด้วยในบริเวณตรงนั้น คือ"โรงเรียนภารตวิทยาลัย"
จึงได้ทำการก่อสร้าง"โบสถ์เทพมณเฑียร"ขึ้น และได้อัญเชิญเทวปฏิมา ของพระผู้เป็นเจ้าและเทพยดา อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวฮินดู มาจากประเทศอินเดียเพื่อมาประดิษฐานเอาไว้ที่โบสถ์แห่งนี้ด้วย
ซึ่งในโบสถ์วัดเทพมณเฑียรแห่งนี้ มีเทวรูปหินอ่อนประดิษฐานอยู่หลายองค์ด้วยกัน โดยมีพระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี เป็นองค์ประธาน
พระวิษณุนารายณ์คือ มหาเทพผู้ดูแลรักษาโลก เยียวยาความเจ็บปวดให้กับทุกสรรพชีวิตที่ศรัทธาในพระองค์
พระลักษมีคือ มหาเทวีผู้ประทานความสมบูรณ์ ทรัพย์สมบัติและความร่มเย็นเป็นสุข
ทั้งสองพระองค์จึงเป็นเทพเจ้าผู้ประทานความรักอันบริสุทธิ์และความผาสุขอันเป็นนิรันดร์
นอกจากนี้ยังมีเทวรูปองค์เทพอื่นๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย อาทิ เช่น
พระพรหมคือผู้สร้างโลกเป็นหนึ่งในตรีมูรติ มีพระชายาคือพระแม่สรัสวดีพระองค์เป็นผู้ลิขิตชีวิตมนุษย์ (พรหมลิขิต) และประทานความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาแก่ผู้ศรัทธาทุกคน
พระแม่ทุรคาสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและความมีอำนาจ เป็นเทวรูป อีกปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวีชายาแห่งพระศิวะมหาเทพ (ผู้ทำลาย)
พระพุทธเจ้าชาวพราหมณ์ฮินดูถือว่าเป็นอวตารปางที่เก้าของพระนารายณ์สัญลักษณ์แห่งความไม่เบียดเบียน (อหิงสา)
ตามปุราณะและตำนานต่างๆของพราหมณ์เชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าเป็นอีกปางหนึ่งของ พระวิษณุ
พระราม และ ภควดีสีดา(พระแม่สีดา) พระรามเป็นอวตารปางที่เจ็ดของพระวิษณุมหาเทพผู้เก่งกล้าจากมหากาพย์รามายณะ (รามเกียรติ์)เป็นปางหนึ่งของพระวิษณุอวตารเพื่อปราบมารพระรามได้รับการสักการะจากชาวฮินดูเป็นอย่างมาก
พระกฤษณะและชายาอีกอวตารหนึ่งของพระวิษณุนารายณ์พระกฤษณะคือผู้ให้กำเนิดคัมภีร์ภควัทคีตาเป็นอีกอวตารหนึ่งของพระวิษณุ ปรากฎในในมหาภารตะพระองค์โปรดให้มนุษย์ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหน้าที่และชี้นำเหล่าผู้ศรัทธาไปสู่โมกษธรรมอันสูงสุด
พระหนุมานอวตารของพระศิวะ เพื่อคุ้มครองดูแลพระรามพระหนุมาน บริวารและสมุนเอกแห่งพระรามตามตำนานกล่าวว่าพระหนุมานมีกำลังเทียบเท่าพระพิฆเนศ
พระพิฆเนศวร (พระคเณศ)โอรสของพระอิศวรและพระแม่อุมา มหาเทพผู้ประทานความสำเร็จแก่ผู้ศรัทธา
โดยส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่นอกจากจะมากราบไหว้องค์เทพอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความศรัทธาแล้ว สิ่งที่หลายคนนิยมขอมากที่สุดก็คือเรื่องของ?ความรัก?โดยเฉพาะการขอพรเรื่องความรักจากองค์เทพที่เป็นประธาน?พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี?ซึ่งมีความเชื่อว่าองค์เทพทั้งสองเป็นเทพที่จะประทานพรมอบความรักอันบริสุทธิ์ที่เป็นนิรันดริ์ให้แก้ผู้ที่ไปตั้งจิตอธิษฐานอย่างจริงจัง ทำให้เราได้สมหวังได้ดั่งใจปอง
สำหรับใครที่อยากสมหวังเรื่องความรักลองไปขอพรกับท่านได้เลยค่ะ?แต่สำหรับใครที่สมหวังในความรักแล้ว อยากจะไปกราบไหว้บูชาเทพองค์อื่นๆ ก็สามารถไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้
เพราะเราเชื่อว่าเมื่อไปแล้ว สิ่งที่จะได้กลับมาไม่ใช่แค่พรที่เราขอต่อองค์เทพ แต่เป็นความอิ่มเอมใจอิ่มบุญ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยได้กราบไหว้องค์เทพที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่มาจากอินเดีย โดยที่เราไม่ได้เดินทางไปไกลเลยค่ะ
สามารถมาขอพรได้ตามวันและเวลาดังนี้
- วันจันทร์ถึงวันพฤหัส ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 ? 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 ? 20.30 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00 ? 17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน
- วันศุกร์ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 ? 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 ? 20.00 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00 ? 17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน
- วันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดต่างๆ เปิดให้เข้าได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 ? 20.30 น.
แถมอีกนิดสำหรับคนที่ต้องการนำดอกไม้หรือพวงมาลัยมาถวายองค์เทพ ต้องจัดเตรียมมาเองให้พร้อมนะคะ เพราะที่นี่ไม่มีขาย
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ห้ามผู้ที่เข้ามาสักการะทำการจุดธูปเทียนภายในบริเวณเทพมณเฑียรอย่างเด็ดขาด (ยกเว้นพราหมณ์ที่จะจุดในขณะประกอบพิธีบูชาเท่านั้น)
การเดินทางมาที่โบสถ์เทพมณเฑียร ก็สังเกตง่ายๆ ว่าจะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศน์เทพวราราม โดยมีรถประจำทางผ่านหลายสายดังนี้ สาย10 12 19 35 42 56 96 และรถปรับอากาศสาย 42
และนี้ก็เป็นเรื่องราวของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งที่เรามีมาฝากใครที่อยากจะไปไหว้ขอพรไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก หรือเรื่องอื่น ก็สามารถไปได้ที่ โบสถ์เทพมณเฑียรกันได้ค่ะ